นางกันยารัตน์ โชคอุ่นกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป (PLAT) กล่าวว่า ตามที่ภาครัฐได้ประกาศให้ศูนย์การค้าในกรุงเทพมหานครเปิดให้บริการได้ เมื่อ 17 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ทำการเปิดให้บริการ ศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ และเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ด้วยมาตรการความปลอดภัยในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามข้อกำหนดของทางภาครัฐอย่างเคร่งครัด พร้อมได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการร้านค้าในการร่วมเปิดให้บริการอย่างพร้อมเพรียงและปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยต่อสุขอนามัยของลูกค้าอย่างสูงสุด
ทั้งนี้ จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตของคนทั่วโลกรวมถึงทุกคนในประเทศไทยแล้ว ผลกระทบสำคัญที่ตามมาอีกเรื่องคือสภาพเศรษฐกิจ ที่ทุกประเทศทุกภาคส่วนกำลังเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในภาคการท่องเที่ยว การส่งออก การใช้จ่ายลงทุนของภาครัฐ การบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน ตลอดจนกำลังซื้อของภาคครัวเรือนที่ต่างก็ลดลง ประกอบกับการปิดให้บริการศูนย์การค้าชั่วคราวตามประกาศภาครัฐ ที่ส่งกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/63 โดยรายได้รวมมีจำนวนทั้งสิ้น 458 ล้านบาท และกำไรสุทธิจำนวน 26 ล้านบาท
แต่บริษัทยังคงมีสภาพคล่องส่วนเกินที่เพียงพอ และมีสถานะทางการเงิน ที่เข้มแข็งเพื่อรองรับภาวการณ์ในสถานการณ์ครั้งนี้ และยังคงยืนยันในการดำเนินงานขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปอย่างเต็มกำลัง โดยยึดหลักความระมัดระวัง ภายใต้วิถีการใช้ชีวิตแบบใหม่ (New Normal) ในสถานการณ์ดังกล่าว
สำหรับแผนดำเนินงานในระยะสั้น ทางบริษัท ได้ออกมาตรการ ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย ด้วยการขยายเวลายกเว้นในส่วนของค่าเช่า 100% อีก 2 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.63 ที่ภาครัฐได้ออกประกาศให้กลับมาเปิดให้บริการได้ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภาระและเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกำลังใจให้ผู้ประกอบการร้านค้าสามารถกลับมาเปิดดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง ซึ่งก็ได้ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ มีร้านค้าเข้าร่วมเปิดให้บริการเฉลี่ยกว่า 80% และคาดว่าร้านค้าจะทยอยกลับมาเปิดให้บริการได้ครบทั้งหมดตามปกติภายในต้นเดือนมิ.ย.นี้ โดยร้านค้าที่มาเปิดให้บริการทุกรายได้ยึดหลักปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐ ในการดูแลสุขอนามัยของพนักงานร้านค้า และลูกค้าอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจมาใช้บริการได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนั้น บริษัทยังมีมาตรการช่วยเหลือด้านการจัดกิจกรรมทางการตลาด โดยเน้นผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ทั้งการไลฟ์สด การจัดโปรโมชั่น เพื่อส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายให้แก่ผู้ประกอบการ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีความเชื่อมั่นในพื้นฐานทางเศรษฐกิจและศักยภาพของประเทศไทย โดยยังคงลงทุนตามแผนงานด้วยความระมัดระวังรอบคอบ ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท สมุย จำนวน 203 ห้อง เน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก
สำหรับโครงการเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก เฟส 2 ได้แก่ โรงแรม ม็อกซี่ โฮเทล แบงคอก ราชประสงค์ จำนวน 532 ห้อง และอาคารสำนักงานให้เช่า ออฟฟิศ ทาวเวอร์ จำนวนพื้นที่ให้เช่าประมาณ 38,000 ตารางเมตร บริษัท ยังคงพิจารณาการลงทุนเพิ่มเติมด้วยความระมัดระวังรอบคอบต่อไปในอนาคต พร้อมเฝ้าติดตามนโยบายภาครัฐ ประกอบกับภาพรวมสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์การทำธุรกิจและการลงทุนที่เหมาะสมต่อไป