NOBLE กัดฟันคงเป้าปี 63 รายได้-ยอดขายแม้ต้นปีรับพิษโควิด ลุยเปิด 6 โครงการใหม่กว่า 2.4 หมื่นลบ.ครึ่งปีหลัง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 2, 2020 17:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจยอดขายจะเป็นไปตามเป้าหมาย 1.2 หมื่นล้านบาท แม้ว่าช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาทำได้เพียง 1.4-1.5 พันล้านบาท และรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมาย 1 หมื่นล้านบาทเช่นเดียวกัน แม้จะมีแรงกดดันจากสถานการณ์โควิด-19 เข้ามากระทบกับการโอนโครงการคอนโดมิเนียมล่าช้าไปบ้าง โดยเฉพาะจากมาตรการล็อกดาวน์ตลอดทั้งเดือน เม.ย. รวมทั้งข้อจำกัดในการทำธุรกรรมและกิจกรรมต่างๆ

ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 2/63 คาดว่าจะมีรายได้ต่ำสุดในปีนี้ราว 900-1,000 ล้านบาท โดยลดลงจากไตรมาส 1/63 ที่ทำรายได้ 2.1 พันล้านบาท และทำให้รายได้ในครึ่งปีแรกน่าจะทำได้ราว 3 พันล้านบาทเท่านั้น

ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทกลับมาเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ตามแผนงานที่วางไว้อีก 6 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 2.4 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันสำนักงานขายโครงการ 4 แห่งสร้างเสร็จรอเปิดขายแล้ว ได้แก่ งามวงศ์วาน ทองหล่อ รัชดา และแยกไฟฉาย แต่จะเปิดขายเมื่อใดขอรอจังหวะตลาดที่เหมาะสมก่อน ซึ่งมั่นใจว่าหากเปิดการขายแล้วจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยจะเน้นไปที่การพัฒนาโครงการเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางมากขึ้น ราคาขายจะปรับลงมาต่ำกว่า 5 ล้านบาทเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

นอกจากนั้น ยังเชื่อว่าครึ่งปีหลังสถานการณ์กลับมาสู่ภาวะปกติจะทำให้การโอนโครงการให้กับลูกค้าทำได้มากขึ้น โดยจะมีโครงการคอนโดมิเนียมทยอยโอนเพิ่มเข้ามา 3 โครงการตั้งแต่ไตรมาส 3/63 เป็นต้นไป คือ โครงการ NOBLE BE19 สุขุมวิท, โครงการ NOBLE AROUND สุขุมวิท 33 และ โครงการ NUE Noble แจ้งวัฒนะ โดยคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) เข้ามาเกือบ 8 พันล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง จาก Backlog ที่มีอยู่กว่า 1.54 หมื่นล้านบาท ซึ่งช่วยหนุนรายได้ปีนี้ให้เข้าเป้าได้

นายธงชัย ยังเปิดเผยว่า บริษัทสามารถทำยอดขายจากแคมเปญผ่านช่องทาง Online Booking ได้กว่า 1.3 พันล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ทำให้โครงการที่นำมาเข้าร่วมแคมเปญขายหมดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโครงการ โนเบิล รีโว สีลม และ โนเบิล รีเวนต์ โดยความสำเร็จมาจากการเสนอขายในราคาพิเศษ พร้อมกับยูนิตที่คัดสรรมาบนทำเลของโครงการใจกลางเมืองติดรถไฟฟ้า และช่องทางการขายที่ตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปให้สอดคล้องกับรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ New Normal ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยที่บริษัทตั้งเป้าระบายสต็อกโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมโอนในปีนี้ที่ 2 พันล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ