SELIC ปรับแผนเน้นกลุ่ม Hotmelted และ Water based เจาะตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค,Bio-based,Digital printing

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 8, 2020 15:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีลิค คอร์พ (SELIC) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงครึ่งปีแรกที่เกิดขึ้น มีผลกระทบทำให้ยอดขายของกาวในกลุ่ม Solvent based ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก โดยเฉพาะยอดขายสินค้าส่งออก จากปัจจุบัน SELIC และ PMC มีสัดส่วนยอดขายส่งออกต่างประเทศรวม 36% และยังส่งผลกระทบต่อกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย, รองเท้า-เครื่องหนัง, และชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดโรงงานจากการล็อกดาวน์ และการจับจ่ายใช้สอยในประเทศที่ชะลอตัวลง

อนึ่ง กลุ่ม PMC ได้แก่ บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ จำกัด ในประเทศไทย และบริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ พีทีอี ลิมิเตด ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์และผลิตภัณฑ์ฉลาก

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับประโยชน์และเห็นแนวโน้มการเติบโตชัดเจนคือผลิตภัณฑ์ Hotmelted และ Water based โดยช่วงที่เหลือของปีบริษัทมีแผนการขยายตลาดใหม่ ๆ จากการเห็นโอกาสในช่วงที่ผ่านมาและจะเข้าไปมุ่งเน้นตลาดเหล่านี้มากขึ้น ได้แก่ กลุ่ม Bio-based, กลุ่ม Digital Printing, กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, กลุ่ม Packaging, กลุ่มสติ๊กเกอร์ และกลุ่มดิจิทัลทั้งหมด ซึ่งมีการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง และบริษัทสามารถเข้าไปโฟกัสกลุ่มตรงนี้ได้เป็นการจัดการให้ยอดขายมีผลกระทบน้อยที่สุด

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการควบคุมค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับการลดลงของความต้องการในตลาด ซึ่งบริษัทมีการเจรจากับผู้จำหน่ายและ supplier ทั้งราคาและ credit term ที่อาจทำให้บริษัทได้รับประโยชน์เพิ่มเติม และให้สามารถผลิตและจำหน่ายลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงชะลอการทำการตลาดบางส่วนออกไป และดูแลบริหารค่าใช้จ่ายพนักงาน (staff fix cost) และมีการตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นบางส่วนออกไป

อย่างไรก็ดีมองว่า ยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับปกติ ซึ่งปัจจุบันปัญหาจากการล็อกดาวน์ยังมีหลายจุด และประเมินว่า Supply Chain ของโลกจะสั้นลง โดยบริษัทจะให้ความสำคัญกับเวลาและงบประมาณสำหรับตลาดในประเทศและในภูมิภาคให้มากขึ้น

"การปรับเป้าหมายปีนี้ เราไม่ได้ดูที่ยอดขายแล้วในแง่การเติบโต เรากลับมารักษากำไรสูงสุดเท่าที่ทำได้และประคองตัวให้เปิดตลาดใหม่ได้ ตลาดผู้บริโภคเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ เราจะต้องเตรียมความพร้อมต่อตลาดเมื่อดีมานด์กลับเข้ามา และจะใช้เวลาในช่วงนี้ปรับตัวและทำตามเป้าหมายให้ได้ดีที่สุด" นายเอก กล่าว

ด้านนางยุวดี เอี่ยมสนธิทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ SELIC เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ช่วงที่เหลือของปี จะเห็นว่าหลายหน่วยงานต่างมีการคาดการณ์สภาพเศรษฐกิจในไทยจะต้องเจอกับภาวะเศรษฐกิจหดตัวทั้งปี ซึ่งโอกาสที่จะกลับมาได้ต้องใช้เวลาจนถึงปีหน้า ในขณะเดียวกันสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ยังไม่ได้ดูทีท่าว่าจะดีขึ้นชัดเจน จากการคาดการณ์ของหลายหน่วยงานจะอยู่ไปตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ต้องมองดูว่าจะทำอย่างไรให้มีผลกระทบน้อยที่สุดและทำผลประกอบการได้ดีที่สุด

โดยในปีนี้บริษัทจะทำการเจาะตลาดใหม่ ๆ ซึ่งจากข้อมูลของหน่วยงานวิจัยข้อมูลผู้บริโภคมีการคาดการณ์ว่ากลุ่มที่จะกลับมา rebound คือสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งจะเห็นว่ามีจุดพีคเรื่อย ๆ ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, กลุ่มซอสและน้ำมัน ซึ่งคาดว่าจะมีการเติบโตได้ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ จะเห็นว่าผลประกอบการไตรมาส 1/63 ที่ผ่านมา ยอดขายกาวอุตสาหกรรมมีผลกระทบจากต่างประเทศโดยตรง โดยมองการหดตัวของกาว Solvent based มีแนวโน้มขาลง และหดตัวเร็วขึ้นจากผลกระทบโควิด-19 แต่ยังเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นของกลุ่ม Hotmelt เป็นขาขึ้น ส่วน Waterbased ยังเติบโตได้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ลดลงจากไตรมาส 4/62 โดยมีการศึกษาตลาดแล้วพบว่ายังมีดีมานด์ต่อเนื่อง

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์ Solvent based 42%, Hotmelt 40 % และ Water based 14%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ