บลจ.กรุงศรี ขายกอง KFGDIV 15-22 มิ.ย.ชูโอกาสรับกระแสเงินสดจากหุ้นปันผลทั่วโลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 15, 2020 12:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บลจ.กรุงศรี ขายกอง KFGDIV 15-22 มิ.ย.ชูโอกาสรับกระแสเงินสดจากหุ้นปันผลทั่วโลก

นางสาวศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า บริษัทเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลดิวิเดนด์เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ (KFGDIV) ที่มีนโยบายลงทุนใน Fidelity Funds - Global Dividend Fund (กองทุนหลัก) กองทุน 5 ดาวจาก Morningstar โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยกองทุนหลักใช้กลยุทธ์การลงทุนที่ไม่ยึดติดกับดัชนี เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่แตกต่าง เน้นสร้างผลตอบแทนรวมจากเงินปันผลนอกเหนือจากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น ซึ่งจะช่วยให้ผลตอบแทนรวมของพอร์ตการลงทุนมีความมั่นคงมากขึ้น รับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจได้ดีขึ้น โดยเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 15-22 มิ.ย.63

"หุ้นปันผลหรือที่เรียกกันว่าหุ้นห่านทองคำ เป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับการสร้างกระแสเงินสดและการเติบโต มีประวัติการสร้างผลตอบแทนที่แข็งแกร่งในระยะยาว มีความผันผวนต่ำ และสามารถช่วยลดผลกระทบจากการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2544 หุ้นปันผลสามารถเอาชนะดัชนี S&P ได้อย่างต่อเนื่อง และมีผลตอบแทนรวมสูงกว่าดัชนีกว่า 2 เท่า"นางสาวศิริพร กล่าว

นางสาวศิริพร กล่าวว่า ภาวะปัจจุบันที่เศรษฐกิจทั่วโลกยังคงมีความไม่แน่นอนสูง จำนวนหลักทรัพย์ที่สามารถเอาชนะดัชนีได้มีจำนวนลดลง กำไรสุทธิของบริษัทมีความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจขาลงเพิ่มมากขึ้น ธุรกิจบางประเภทยังต้องเผชิญกับรายได้ที่ลดลงอย่างมาก ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายตัวอ่อนแอลงเป็นตัวบ่งชี้ว่าตลาดยังคงมีความเปราะบาง ผู้ลงทุนจึงควรกระจายการลงทุนไปยังกลยุทธ์เชิงรับเพื่อปกป้องพอร์ตการลงทุนพร้อมเสริมความแข็งแกร่งท่ามกลางความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาด

กองทุน KFGDIV ซึ่งลงทุนในกองทุนหลัก ซึ่งเป็นการลงทุนในหุ้นปันผลชั้นนำของโลก และให้ความสำคัญกับการรักษาเงินลงทุน และจำกัดการขาดทุนตามแนวทาง Defensive จะเห็นว่าพอร์ตการลงทุนมีการกระจายการลงทุนที่หลากหลาย ทั้งในแง่แหล่งที่ตั้งครอบคลุมทั้งสหราชอาณาจักร ยุโรป อเมริกา ตลาดเกิดใหม่ เป็นต้น และกระจายการลงทุนตามแหล่งรายได้ จึงสามารถกระจายความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้กองทุนหลักยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น เทียบกับตลาดหุ้นทั่วไปและคู่แข่งในอุตสาหกรรม และสามารถสร้างผลการดำเนินย้อนหลังได้ดีกว่า ดัชนี MSCI AC World Index ทั้งในระยะ 3 ปี หรือ 5 ปี รวมถึงตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2555 ผลตอบแทนรวมอยู่ที่ 87.5% ขณะที่ดัชนี MSCI AC World Index อยู่ที่ 65.8%

ทั้งนี้ บลจ.กรุงศรี เชื่อว่ากองทุน KFGDIV จะมีส่วนช่วยให้ผลตอบแทนรวมของพอร์ตการลงทุนมีความมั่นคงมากขึ้น รับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจได้ดีขึ้น โดยจะมี 2 นโยบายให้เลือกลงทุน ทั้ง KFGDIV-A ซึ่งไม่มีการจ่ายปันผล และ KFGDIV-D ที่มีนโยบายจ่ายปันผลด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ