(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับฐานตามตปท. กังวลพิษโควิดระบาดรอบสอง-ราคาน้ำมันลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 18, 2020 09:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับฐานตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างติดลบกันแต่ไม่มาก เช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯที่ปรับตัวลง จากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกสองในจีน ที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอยู่

นอกจากนี้ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงหลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดียังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และทิศทางราคาน้ำมัน ส่วนบ้านเราให้ติดตามเรื่อง Travel Bubble และติดตามเรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอให้แบงก์-นอนแบงก์ปรับลดดอกเบี้ย เพื่อลดภาระประชาชนจากวิกฤติโควิด

พร้อมให้แนวรับ 1,365-1,358 จุด ส่วนแนวต้าน 1,383-1,390 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 มิ.ย.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,119.61 จุด ลดลง 170.37 จุด (-0.65%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,113.49 จุด ลดลง 11.25 จุด (-0.36%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,910.53 จุด เพิ่มขึ้น 14.66 จุด (+0.15%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 91.88 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.99 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 95.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 0.39 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 6.70 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 18.58 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.81 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 23.13 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 มิ.ย.63) 1,376.18 จุด เพิ่มขึ้น 9.05 จุด (+0.66%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,854.16 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 มิ.ย.63) ปิดที่ 37.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 42 เซนต์ หรือ 1.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 มิ.ย.) อยู่ที่ -0.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.14/18 ตลาดจับตาสถานการณ์โควิด-19 ระบาดระลอกสอง-กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย
  • แบงก์ชาติ เรียกแบงก์-นอนแบงก์ ถกลดดอกเบี้ยเพิ่มหวังช่วยลดภาระประชาชนจากวิกฤติโควิด โดยสั่งลดดอกเบี้ย 2-4% ทั้ง "บัตรเครดิต-พีโลน-เช่าซื้อรถ" มีผล 1 ก.ค.ถึงสิ้นปีนี้ คาดเตรียมประกาศใช้เร็วๆ นี้
  • "อนุทิน" ชงศบค.เคาะ Travel Bubble 26 มิ.ย.นี้ คาดเป็นแบบ MOU นำร่องกลุ่มนักธุรกิจ-มีตั๋วทำงาน เข้ามาก่อนการท่องเที่ยว เตือนประชาชนใช้ชีวิตวิถีใหม่ ขณะที่ไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศมาเป็นเวลา 23 วันติดต่อกัน
  • แบงก์ชาติ เผยเดือนเม.ย.เงินสดหมุนเวียนในระบบสะพัดกว่า 2 ล้านล้าน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น กว่า 13% จากช่วงเดียวกันปีก่อน พบยอดเบิกแบงก์ "500-1,000 บาท" มากสุด ชี้ "ล็อกดาวน์" ส่งผลประชาชนแห่ถอดเงินสดตุน ทั้งยังเป็นผลจากมาตรการเยียวยา 5 พันบาทด้วย เชื่อหลังจากนี้ปรับตัวมุ่งสู่ดิจิทัลมากขึ้น
  • บอร์ดบีโอไอไฟเขียว 5 โครงการใหญ่ มูลค่าลงทุนกว่า 40,000 ล้านบาท ทั้งกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ กิจการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด และอื่นๆ พร้อมมีโครงการหนุนกิจการเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี

*หุ้นเด่นวันนี้

  • NER-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 307,999,935 หน่วย อายุ 2 ปี ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.80 บาท/หุ้น กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 15 ธ.ค.63 และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย วันที่ 26 พ.ค.65
  • NEX-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX)) มีจำนวน 223,380,898 หน่วย อายุ 3 ปี ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย โดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 1 บาท/หุ้น กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 19 พ.ค.66 และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 19 พ.ค.66

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ สั่งให้ NEX-W2 ใช้เกณฑ์ Cash Balance ในช่วง 18 มิ.ย.-3 ก.ค.63

  • STEC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 23 บาท โปรเจ็คเมืองการบินตะวันออกมูลค่า 2.9 แสนล้านบาท เตรียมลงนามสัญญากับกลุ่ม BBS Joint Venture ศุกร์นี้ STEC ถือหุ้น 20% เป็นแกนหลักด้านการก่อสร้างซึ่งมีมูลค่างานทั้งหมด 6 หมื่นล้านบาท เฟสแรกที่เป็นงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท และมีงาน O&M มอเตอร์เวย์บางปะอิน รถไฟฟ้าสีชมพูส่วนต่อขยาย รอเซ็นสัญญา ช่วยดัน Backlog ให้สูงเกิน 1 แสนล้านบาท สูงสุดในกลุ่ม รองรับรายได้กว่า 2 ปี ด้านฐานะการเงินแข็งแกร่ง ปลอดหนี้เงินกู้ ความเสี่ยงคือการควบคุมต้นทุน แนวโน้มกำไร Q2/63 คาดทรงตัว Q-Q งานก่อสร้างไม่ถูกกระทบจากโควิด-19
  • GPSC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้าสูงสุด IAA Consensus 95 บาท ปลอดภัยจากโควิด-19 และ Trade war อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำ ขณะที่วานนี้ได้ Sentiment บวกหลังจากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ต้องการให้กฟผ. เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าในประเทศให้ไม่ต่ำกว่า 51% ช่วยปลดล็อก overhang และเพิ่ม upside หรือ Growth story ให้กับผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าในประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ