(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ตามภูมิภาค ท้ายตลาดอาจผันผวนจากฟุตซี่ปรับนน.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 19, 2020 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในลักษณะทรงตัวสอดคล้องตลาดภูมิภาค หลังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนการลงทุน ขณะที่ยังต้องติดตามการปรับน้ำหนักลงทุนของฟุตซี่ในวันนี้ ซึ่งอาจทำให้ดัชนีผันผวนได้ในช่วงท้ายตลาด ขณะที่ยังต้องติดตามปัจจัยจากต่างประเทศทั้งในส่วนของจัดตั้งกองทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของทางยุโรป และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน พร้อมให้แนวรับ 1,365 แนวต้าน 1,380 จุด

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในลักษณะทรงตัว คล้ายคลึงตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้แกว่งไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบ หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งแคบเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่อะไรเข้ามาสนับสนุนการลงทุน อย่างไรก็ดีในช่วงท้ายตลาดวันนี้อาจผันผวนได้จากการปรับน้ำหนักลงทุนของฟุตซี่

ทั้งนี้ ให้ติดตามสหภาพยุโรป (EU) พิจารณาเรื่องการจัดตั้งกองทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของยูโรโซน และติดตามความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,365 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (18 มิ.ย.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,080.10 จุด ลดลง 39.51 จุด (-0.15%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,115.34 จุด เพิ่มขึ้น 1.85 จุด (+0.06%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,943.05 จุด เพิ่มขึ้น 32.52 จุด (+0.33%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 160.29 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 91.58 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 8.94 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 19.61 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 9.30 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 6.95 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 55.27 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 มิ.ย.63) 1,372.98 จุด ลดลง 3.20 จุด (-0.23%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,441.95 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (18 มิ.ย.63) ปิดที่ 38.84 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 2.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 มิ.ย.) อยู่ที่ 0.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.08 ทรงตัวจากวานนี้ ให้กรอบ 31.00-31.20 ตลาดรอความชัดเจนปัจจัยต่างประเทศ
  • แบงก์ชาติเตรียมประกาศมาตรการช่วยลูกหนี้เพิ่มเติมวันนี้ ก่อนเปิดแถลงข่าว 22 มิ.ย. มุ่งเป้ากลุ่มรายย่อย เน้นสินเชื่อบัตรเครดิต-พีโลน ลดดอกเบี้ยเพิ่ม 2-4% ด้านผู้ประกอบการลั่นพร้อมให้ความร่วมมือ แต่ห่วงทำลูกค้าบางกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น เหตุต้องลดความเสี่ยงลง ขณะหุ้นแบงก์-ลิสซิ่ง รูดหนัก ด้านโบรกเกอร์ ประเมินดอกเบี้ยที่ลดลงทุก 1% ส่งผลต่อกำไรราว 3-9%
  • "ศักดิ์สยาม" เผย "คมนาคม" เสนอของบฟื้นฟูเยียวยาโควิด-19 วงเงินเกือบ 1.4 แสนล้านบาท วาง 3 กิจกรรม เยียวยา ผู้ประกอบการขนส่งทางบก 7 พันล้านบาท หนุนซื้อยางพารา 4 หมื่นล้านบาท อีก 8.5 หมื่นล้านบาท ทุ่มสร้างถนนเพิ่มประสิทธิภาพขนส่งสินค้าเกษตร-หนุน ท่องเที่ยว
  • "กรุงศรี"คาดเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแบบตัวยู และต้องใช้เวลากว่า 2 ปี กลับสู่ระดับก่อนโควิดแพร่ระบาด (U-shaped) และอาจต้องใช้เวลาถึง 2 ปีครึ่ง หรือปี 65 กว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ระดับก่อนการแพร่ระบาด ชี้อุตสาหกรรมบริการ ขนส่งอากาศฟื้นหลังสุด
  • สอท. โอดส่งออกรถยนต์ 5 เดือนแรก ดิ่ง 35% ด้านมูลค่าส่งออกกลุ่มรถยนต์รวมรถจักรยานยนต์ช่วง 5 เดือนแรกสูญกว่าแสนล้านบาท ลั่นพร้อมเป็นโซ่กลางเชื่อมเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อภาครัฐ สู้ภัยโควิด-19
  • นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ในสถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงมีการช่วยเหลือจากภาครัฐต่อผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ช่วยหนุนยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือนพฤษภาคม 2563 ดีขึ้นกว่าเดือนเมษายน 2563 โดยทำยอดขายได้รวม 40,418 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2563 คิดเป็นร้อยละ 34.24 แต่ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาร้อยละ 54.12

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BAM (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้าสูงสุด IAA Consensus 29.5 บาท แนวโน้มเศรษฐกิจไม่ดี NPLs มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น เป็นโอกาสของผู้ประกอบการติดตามหนี้และบริหารสินทรัพย์ จากการเข้าซื้อ NPLs ในราคาที่ถูกลง (แย่งกันขาย) หนุนพอร์ตลูกหนี้ในมือเพิ่มขึ้นรอออกดอกผลเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว นอกจากนี้ยังมี Sentiment บวกจากการได้ปรับเข้าคำนวณในดัชนี FTSE Mid cap รอบใหม่โดยใช้ราคาปิดวันนี้
  • LH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 9.80 บาท ยอดขาย 5M63 ดีกว่าคาด ทำได้ 53% ของเป้าทั้งปี จากเดือนเม.ย.-พ.ค.ที่ฟื้นเด่นในฐานะผู้นำตลาดแนวราบ Mid-to-High ที่ไปได้ดีท่ามกลางโควิด-19 แม้งบ Q2/63 จะชะลอแต่จะเป็นจุดต่ำสุดของปี และฟื้นตัวดีใน H2/63 จากการเปิดโครงการใหม่ที่มากขึ้นกว่าเท่าตัว เริ่มโอนคอนโดฯใหม่ 2 แห่ง และธุรกิจ Recurring ที่กลับมาเปิดได้ตามปกติ ด้านโครงสร้างธุรกิจแข็งแกร่ง ฐานะการเงินมั่นคง คาดจ่ายปันผล 5-6% ต่อปี เหมาะกับยุคดอกเบี้ยต่ำ และมี upside จากการขาย Apartment สหรัฐใน H2/63

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ