JMART-W4 ปิดเทรดวันแรกที่ 2.92 บาท มูลค่าซื้อขาย 151.86 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.60 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 3.04 บาท และราคาลงต่ำสุด 2.00 บาท
ขณะที่หุ้น JMART ปิดที่ 10.90 บาท ลดลง 0.30 บาท (-2.68%) มูลค่าซื้อขาย 255.76 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 11.30 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 11.40 บาท และราคาลงต่ำสุด 10.90 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.เจ มาร์ท (JMART) ครั้งที่ 4 ใช้ชื่อย่อว่า JMART-W4 ที่ 5.52 บาท (BSM) อิงราคาหุ้นแม่ที่ 11.20 บาท โดยมีความผันผวนของหุ้นแม่ที่ 79% ในด้านของต้นทุนผู้ได้รับ JMART-W3 และ JMART-W4 อยู่ที่ 5.85 บาท (ราคาหุ้นลดลง 0.65 บาท โดยขึ้นเครื่องหมาย XW ที่ 9 : 1 และเป็นต้นทุนรวมสำหรับ 2 ใบสำคัญแสดงสิทธิ) ด้วยสถานะของ JMART-W3 ที่ ITM อยู่เล็กน้อยเทียบกับ JMART-W4 ที่ OTM อยู่ 25% แต่อายุของ JMART-W4 ที่นานกว่า ทำให้มองว่า สำหรับการเก็งกำไรในระยะสั้นแล้ว JMART-W3 จะมีความน่าสนใจในการเก็งกำไรมากกว่าจาก Eff. Gearing ที่สูงกว่า และมีราคาตามทฤษฏีที่ต่ำกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ในเชิงของมูลค่าที่เหมาะสมตาม Consensus อยู่ที่ 10 บาท ทำให้มองว่าเหมาะสำหรับเก็งกำไรในระยะสั้นเท่านั้น
พร้อมให้กรอบมุลค่าของ JMART-W4 ไว้ที่ 5.18-5.89 บาท เมื่อราคาหุ้น JMART อยู่ที่ 10.70-11.70 บาท โดยมี Volatility 79% per year
JAMRT ปัจจุบัน บริษัทมีสถานะเป็นโฮลดิ้ง คอมพานี หรือประกอบธุรกิจลงทุนในธุรกิจอื่น โดยมีธุรกิจหลักของบริษัทแกนคือ จำหน่ายทั้งค้าปลีกและค้าส่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่หลักทุกราย และผู้ให้บริการทุกเครือข่ายรวมถึงการขยายธุรกิจเข้าไปในตลาดจัดจำหน่ายกล้องดิจิตอล และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
JMART-W4 จำนวนที่ออก 100.7 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 9 หุ้นเดิม : 1 หลักทรัพย์แปลงสภาพ (ขึ้นเครื่องหมาย XW ในวันที่ 11 มิ.ย. 2563) อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 15 บาท อายุ 4 ปี โดยสามารถใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของทุกไตรมาส (ใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 19 มิ.ย. 2563 และหมดอายุในวันที่ 18 มิ.ย. 2567)