"จรัสภล รุจิราโสภณ" หนุ่มมาดเซอร์วัย 38 ปี ทายาทคนโตของ บมจ.ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ (SORKON) เข้ารับหน้าที่ดูแลธุรกิจอาหารพร้อมรับประทาน (RTE-QSR) พร้อมกับงานหนักสานภารกิจพลิกโฉมผลิตภัณฑ์ ส.ขอนแก่น ตั้งแต่เดือน ส.ค.63 หวังกวาดส่วนแบ่งเพิ่มทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อก้าวสู่ผู้นำตลาด"อาหารไทยเพื่อทุกชีวิต" พร้อมบุกหนักตลาดรูปแบบใหม่ ภายใต้เป้าหมายท้าทายผลักดันรายได้เติบโตเท่าตัวในปี 65 ด้วยสไตล์การบริหารงานและวิสัยทัศน์ของคนรุ่นใหม่
"ตั้งแต่ผมและน้องชายได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นมาเป็น CEO เข้ามาช่วยบริหารงานคุณพ่อ (เจริญ รุจิราโสภณ) ก็มีความตั้งใจที่จะขยับพอร์ตของ ส.ขอนแก่น จากเดิมที่เราเป็นผู้นำธุรกิจอาหารพื้นเมือง และมี mission ใหม่ที่จะต่อยอดจากคุณพ่อ คือการเป็นอาหารไทยเพื่อทุกชีวิตที่ดีขึ้น...เรามีความพร้อมตรงนี้ และตลาดมันก็ใหญ่ขึ้น""ภายในปีนี้ตั้งแต่เดือน 8 เป็นต้นไป เราจะเห็นสินค้า ส.ขอนแก่น เปลี่ยน packaging ทุกอย่าง รวมถึงสินค้าตัวเดิม ไม่ใช่แค่เปลี่ยนอย่างเดียว เราเพิ่มคุณภาพของสินค้า เราทำให้มันเก็บนานขึ้น หอมขึ้น รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปสวยงามขึ้น น่าซื้อน่าใช้มากขึ้น โดยรวมคือการทำสินค้าเดิมให้ดีขึ้น ส่วนที่ 2 คือการเข้าไปตลาดใหม่ ๆ อย่างเช่นตลาด Food Delivery ตลาด E-Commerce และขยายพอร์ตไปอยู่อุตสาหกรรมอื่น เราอยากเห็นสินค้า ส.ขอนแก่น ที่เป็นเนื้อสัตว์แปรรูปไปอยู่ในหมวด Snack หรือในหมวดอื่นๆ หรืออุตสาหกรรมอื่นๆ
เราไม่ได้อยากเข้าไปแข่งขันว่าใครทำหมูแผ่นได้ดีกว่ากัน แต่เราอยากที่จะเห็นหมูแผ่นเติบโตเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคจริงๆ เราจะมีการนำเสนอสินค้าแปรรูปจากเนื้อสัตว์แบบของคนไทยเข้าไปอยู่ใน Category อื่นๆ อาจจะไม่จำเป็นต้องเดินผ่านไปโซนน้ำพริก ไข่ ทองม้วน แล้วเห็น ส.ขอนแก่น เราอาจจะเดินไปตรงนั้นก็เจอ ส.ขอนแก่น เดินไปตรงนี้ก็เจอ ส.ขอนแก่น"
นายจรัสภล กล่าวว่า บริษัทวางแผนการดำเนินงานในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า (ตามแผนปี 63-65) จะมีรายได้เพิ่มเป็น 6,000 ล้านบาท เติบโตเป็นเท่าตัวจากปัจจุบันที่มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อปี โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารไทยและต่อยอดผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นอาหารพื้นเมืองตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปรับรูปแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่เพื่อดึงดูดความสนใจกลุ่มผู้บริโภคหลากหลาย รวมถึงการเพิ่มคุณภาพสินค้ากระจายสู่กลุ่มลูกค้าใหม่มากขึ้น เช่น แปรรูปอาหารเป็นผลิตภัณฑ์ประเภท Snack หรือขนมขบเคี้ยว มีมูลค่าตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ทั้งในไทยและต่างประเทศ เป็นต้น
นอกจากแนวทางยกระดับผลิตภัณฑ์ในหลายมิติแล้ว บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มด้านต่างๆ อาทิ ช่องทาง e-Commerce , พัฒนาระบบหลังบ้านที่เป็นข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้าแต่ละกลุ่มฐานลูกค้า เพื่อนำมาวิเคราะห์และสามารถกำหนดแผนการตลาดตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง สะท้อนจากช่วงวิกฤติโควิด-19 ช่องทางการขายสินค้าผ่านออนไลน์ และธุรกิจ Food Delivery เติบโตขึ้นหลายเท่าตัว ดังนั้น เมื่อนำระบบแพลตฟอร์มที่มีความทันสมัยเข้ามาช่วยจึงสามารถกระตุ้นยอดขายได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น
"เราพยายามที่จะหาแพลตฟอร์ม หรือหาอะไรบางอย่างที่จะเชื่อมลูกค้าจาก Offline มาเป็น Online ของเราให้ได้ คือ ส.ขอนแก่นเราโชคดีที่มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาหารพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์ที่เป็นขนมขบเคี้ยว มีลูกชิ้นปลาตราแต้จิ๋ว เรามีฐานลูกค้าที่ค่อนข้างกว้าง ทีนี้เราก็จะพยายามให้ฐานลูกค้าที่เป็น Offline มาลงทะเบียนและมีประสบการณ์กับผลิตภัณฑ์ในช่องทาง Online ของบริษัท ก็เป็นแนวทางของบริษัทที่จะได้ข้อมูลของลูกค้า และรู้ว่าลูกค้าของเรา วันนี้เขาไปกินส้มตำ Zaap Classic ตอนเย็นไปซื้อลูกชิ้นปลาแต้จิ๋วหรือเปล่า ตื่นมาตอนเช้ากินข้าวต้มหมูหยองหรือเปล่า จะได้เข้าใจลูกค้าคนหนึ่งว่ามีประสบการของแบรนด์ ส.ขอนแก่นในแง่มุมไหนบ้าง"นายจรัสภล กล่าวสำหรับแนวทางพัฒนาธุรกิจร้านอาหารในเครือของ ส.ขอนแก่น ได้แก่ ร้าน "Zaap Classic" และร้านข้าวขาหมูยูนนาน บริษัทเล็งเห็นโอกาสขยายช่องทางผ่านออนไลน์ และ Food Delivery ในช่วงเกิดสถานการณ์โควิด-19 เพราะยอดขายผ่านทาง Delivery เพิ่มขึ้นถึง 60% บริษัทจึงปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้มีความเหมาะสมด้วยการเพิ่มสินค้ากลุ่มของ ส.ขอนแก่น เข้าไปในร้าน "Zaap Classic" และร้านข้าวขาหมูยูนนาน เพื่อเป็นจุดกระจายสินค้าเพิ่มเติมจากเดิมที่อยู่ในพื้นที่ห้างสรรพสินค้าเท่านั้น
"ช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แต่บริษัทก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากเป็นสินค้าจำเป็นผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าของบริษัทไปกักตุน ขณะเดียวกันพฤติกรรมผู้บริโภคก็ปรับเปลี่ยนหันมาสั่งสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายผ่านออนไลน์เติบโตขึ้นหลายเท่าตัวในช่วงที่ปิดเมือง (Lock down) และหลังจากที่มีการคลายมาตรการต่างๆ ออกมาแล้วก็มองว่าลูกค้าที่ได้ทดลองซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ก็หันมาเป็นลูกค้าประจำและเป็นส่วนช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นด้วย"นายจรัสภล กล่าวด้านแผนขยายตลาดต่างประเทศนั้น บริษัทมีแผนเพิ่มสัดส่วนส่งออกไปตลาดต่างประเทศมากขึ้นจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนประมาณกว่า 10% ของรายได้ทั้งหมด แม้ว่ามีข้อจำกัดบางประเทศที่ไม่สามารถนำเข้าเนื้อหมูแปรรูปจากไทยได้ แต่บริษัทหันมาขยายผลิตภัณฑ์รูปแบบอื่น เช่น ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อปลา และเนื้อไก่ เพื่อขยายฐานลูกค้า เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงทั้งด้านต้นทุนวัตถุดิบ และลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง เป็นการผลักดันการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
ทั้งนี้ แผนการขยายตลาดในต่างประเทศ บริษัทยังมุ่งขยายฐานลูกค้าประเทศสหรัฐฯและยุโรปเป็นตลาดหลัก เพราะปัจจุบัน บริษัทเข้าไปตั้งสำนักงานและโรงงานผลิตในเนเธอร์แลนด์ และตั้งสำนักงานในสหรัฐฯ โดยมีทีมบริหารงานครบวงจรทั้งด้านฝ่ายขาย และควบคุมคุณภาพสินค้า เป็นต้น ซึ่งเป็นหนึ่งตัวแปรที่จะช่วยขยายตลาดในต่างประเทศได้อีกมาก
นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายร้านอาหารแบรนด์ของ ส.ขอนแก่น ในลักษณะการขายแฟรนไชส์ประเภทร้าน "Food Truck" ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ ซึ่งวันนี้ได้เริ่มนำร่องในประเทศไทยแล้ว ในอนาคตมีแผนขยายจำนวนมากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจบริษัทมีความสมดุลตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ
นายจรัสภล ยังได้กล่าวถึงแนวทางบริหารจัดการภายในองค์กรช่วงเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วยว่า บริษัทเน้นการควบคุมตามมาตรฐานความปลอดภัยทุกด้านและยังได้มอบหมายให้หัวหน้าแต่ละสายงานสื่อสารนโยบายที่ต้องดำเนินการด้วยความเร่งด่วนพร้อมกับกระจายอำนาจการตัดสินใจไปยังหัวหน้าส่วนงานต่างๆเพื่อสามารถปฎิบัติงานได้อย่างทันถ่วงที เช่น พนักงานบางรายมีความเสี่ยงหัวหน้าสายงานก็สามารถตัดสินใจทันทีว่าจำเป็นต้องหยุดงานหรือไม่ เป็นต้น
นอกจากนั้น บริษัทยังได้ให้ความรู้กับพนักงานเกี่ยวกับการดูแลตนเอง ,ป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ควบคู่กับการพัฒนาระบบไอทีด้านต่างๆ เพื่อที่จะให้พนักงานสามารถใช้นโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และทำงานจากบ้าน (work from home) ช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลและสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็ว
"โควิด-19 ทำให้เรากลับมาดูด้วยว่าสินค้าอันไหนที่เราควรจะไปต่อ หรือธุรกิจอันไหนที่เราควรจะไปต่อหรือไม่ไปต่อ รวมไปถึงผ่านโควิด-19 ไปแล้วเราจะทำยังไงให้เรา lean ขึ้น แข็งแรงขึ้น"นายจรัสภล กล่าวhttps://youtu.be/wEOe0Cz2gP4