ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 9.58 จุด ตามตลาดภูมิภาคคาดหวังศก.ฟื้นหนุน ,เกาะติดสัมพันธ์สหรัฐ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 4, 2020 17:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,330.81 จุด เพิ่มขึ้น 9.58 จุด (+0.72%) มูลค่าการซื้อขาย 55,135.61 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นสอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาค คาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากฝั่งยุโรปและสหรัฐ ประกอบกับสหรัฐยังคงเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยสภาพคล่องของระบบ อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนที่อาจกลายเป็นตัวแปรความผันผวน ส่วนภาพรวมลงทุนพรุ่งนี้ยังมีทิศทางบวก แนะจับตาผลประชุม กนง.พร้อมให้แนวรับ 1,315 จุด ส่วนแนวต้าน 1,340 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,330.81 จุด เพิ่มขึ้น 9.58 จุด (+0.72%) มูลค่าการซื้อขาย 55,135.61 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,338.08 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,328.13 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 848 หลักทรัพย์ ลดลง 573 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 344 หลักทรัพย์

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวันนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชียที่คาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจฝั่งยุโรปและสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลงทุนในฝั่งเอเชียด้วย หนุนให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับขึ้นแรงเกือบทุกตลาด ยกเว้นจีนขึ้นได้ไม่มากนัก เพราะยังมีแรงกดดันจากความสัมพันธ์กับสหรัฐที่ยังตึงเครียด

ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกแม้ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เป็นอัตราเร่งตัวมากนักเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้เชื่อว่าโอกาสที่ปัจจัยจากโควิด-19 จะกระทบต่อเศรษฐกิจโลกให้ชะลอตัวลงแรงจากการล็อกดาวน์อีกนั้นคงจะมีไม่มากนัก

ประกอบกับสภาพคล่องในตลาดจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ จะช่วยประคองภาพรวมการลงทุนได้ ขณะที่ล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ส่งสัญญาณที่จะใช้เครื่องมือที่มีอยู่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้ตลาดลดความกังวลในช่วงที่ยังไม่มีความแน่ชัดต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ขณะที่สหรัฐก็อยู่ในช่วงที่ใกล้เลือกตั้งประธานาธิบดีเดือน พ.ย.63 จึงคาดว่าการที่จะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวแรง ๆ ในช่วงนี้คงเป็นไปได้ค่อนข้างยาก เพราะก่อนเลือกตั้งเชื่อว่าสหรัฐจะใช้ทุกเครื่องมือในการประคองเศรษฐกิจ

ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (5 ส.ค.) คาดว่าตลาดยังมีทิศทางเป็นบวก แต่ก็อาจจะมีปัจจัยเข้ามากระทบได้จากปัญหาความสัมพันธ์ของสหรัฐและจีน หลังจากสหรัฐบีบให้ TikTok ของจีนขายกิจการให้กับบริษัทในสหรัฐ ซึ่งต้องรอดูว่าจีนจะตอบโต้หรือไม่อย่างไร แต่ก็เป็นประเด็นที่อาจทำให้ตลาดผันผวนได้ รวมถึงรอติดตามปัจจัยในประเทศที่จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้ เบื้องต้นคาดว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับเดิมต่อไป

พร้อมมองแนวรับที่ 1,315 จุด และแนวต้านที่ 1,340 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,332.28 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,642.25 ล้านบาท ปิดที่ 113.50 บาท ลดลง 9.50 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,517.80 ล้านบาท ปิดที่ 51.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

MINT มูลค่าการซื้อขาย 1,478.47 ล้านบาท ปิดที่ 18.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,475.95 ล้านบาท ปิดที่ 69.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ