JMART ยันไม่กระทบกรณี ธปท.ลดเพดานดบ.เหตุลูกค้ามีรายได้สูง-คิดดบ.เกณฑ์ต่ำ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 5, 2020 16:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

JMART ยันไม่กระทบกรณี ธปท.ลดเพดานดบ.เหตุลูกค้ามีรายได้สูง-คิดดบ.เกณฑ์ต่ำ

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจมาร์ท (JMART) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจสินเชื่อของกลุ่มบริษัท ภายใต้การบริหารบริษัท เจ ฟินเทค จำกัด และบมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ไม่ได้รับผลกระทบมาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศให้ปรับลดเพดานดอกเบี้ยเป็นการทั่วไป 2-4% ต่อปีสำหรับบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล มีผลตั้งแต่ 1 ส.ค.63 และมองว่ามาตรการครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ในแง่ของการกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภค และเพื่อช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์โควิด-19

สำหรับบริษัทในกลุ่มเจมาร์ท ในส่วนของ บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด ดำเนินธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ไม่ได้กระทบมากนัก เพราะฐานลูกค้าหลักเป็นผู้ที่มีรายได้สูง และคิดอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำอยู่แล้ว โดยสำหรับกลุ่มลูกค้าที่คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า 25% มีสัดส่วนมากกว่า 70% ของพอร์ตสินเชื่อรวมทั้งหมดของบริษัท ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 3,700 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้แบรนด์ "J Money" พร้อมทั้ง มุ่งที่จะสร้างประสบการณ์สินเชื่อใหม่ด้วยการใช้เทคโนโลยีด้าน Fintech

ส่วน SINGER ซึ่งดำเนินธุรกิจสินเชื่อเงินผ่อน และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ "รถทำเงิน" ไม่กระทบ เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ให้บริการกับลูกค้าไม่ถึงเกณฑ์ที่ 24% ที่ธปท.ประกาศอยู่แล้ว โดยธุรกิจสินเชื่อรถทำเงินปีนี้บริษัทวางเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีสินเชื่อใหม่เข้ามาอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธุรกิจสินเชื่อรถทำเงินมีอัตราที่ต่ำกว่า 1% โดยหากปล่อยสินเชื่อตามแผนจะทำให้พอร์ตสินเชื่อรวมปีนี้อยู่ที่ ประมาณ 5,300 -5,400 ล้านบาท จากปีก่อนมีพอร์ตสินเชื่อรวม 3,600 ล้านบาท

ด้านบมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) มองว่าตลาดหนี้ด้อยคุณภาพในช่วงครึ่งปีหลัง จะยิ่งเปิดโอกาสให้บริษัทเข้าซื้อหนี้จากสถาบันการเงินได้มากขึ้น เนื่องจาก JMT เป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินในการรับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ เพื่อที่จะสร้างการเติบโตของธุรกิจของบริษัทในอนาคต ทั้งนี้ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาใช้เงินไปกว่า 2,000 ล้านบาทในการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหาร ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

"งบไตรมาส 2/63 ของบริษัทในกลุ่มเจมาร์ทคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะธุรกิจการเงินและธุรกิจบริหารหนี้ ที่โดดเด่น และบริษัทย่อยร่วมในกลุ่มยังคงมีผลประกอบการเติบโต เป็นที่น่าพอใจ แม้จะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งจะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง"นายอดิศักดิ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ