ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,322.01 จุด ลดลง 2.39 จุด (-0.18%) มูลค่าการซื้อขาย 37,417.75 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบในกรอบแคบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,330.17 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,321.90 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 472 หลักทรัพย์ ลดลง 882 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 385 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบมาก โดยดัชนีฯแกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ คล้ายคลึงกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่บวกเล็กน้อย เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็บวกเล็กน้อย เหมือนดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่บวกได้ราว 100 จุด เนื่องจากตลาดฯยังมีความคลุมเครือในบางปัจจัยจากต่างประเทศ ในเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 ส.ค.นี้ ซึ่งจะต้องรอติดตามดู
ส่วนบ้านเราวันนี้มีการเล่นเก็งกำไรตามงบการเงินไตรมาส 2/63 ของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาแล้ว และคาดหวังงบฯจะออกมาดี ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเล่นหุ้นขนาดกลาง ขณะที่หุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มพลังงาน ไม่เคลื่อนไหวมากนัก ส่งผลให้วอลุ่มเทรดโดยรวมน้อย อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งพรุ่งนี้ก็จะมีงบฯของ PTT, CPALL ประกาศออกมา และให้จับตาปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะภาพรวมม็อบจะมีความรุนแรงขึ้นหรือไม่ และในวันที่ 12 ส.ค.นี้ให้ติดตาม MSCI Rebalance ซึ่งจะมีการปรับน้ำหนักการลงทุน
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (11 ส.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตามงบฯ พร้อมให้แนวรับ 1,315 จุด ส่วนแนวต้าน 1,340 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CBG มูลค่าการซื้อขาย 1,601.21 ล้านบาท ปิดที่ 130.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
NER มูลค่าการซื้อขาย 1,531.88 ล้านบาท ปิดที่ 3.94 บาท เพิ่มขึ้น 0.44 บาท
STA มูลค่าการซื้อขาย 1,133.50 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 990.28 ล้านบาท ปิดที่ 49.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
EA มูลค่าการซื้อขาย 935.45 ล้านบาท ปิดที่ 47.00 บาท ลดลง 0.25 บาท