ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,346.69 จุด เพิ่มขึ้น 9.85 จุด (+0.74%) มูลค่าการซื้อขาย 77,812.76 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,353.53 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,343.09 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 704 หลักทรัพย์ ลดลง 879 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 279 หลักทรัพย์
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวในแดนบวกกัน จากความเชื่อมั่นในเรื่องวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่มีโอกาสที่จะทำได้จริง และเกิดขึ้นได้เร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยถูกขายออกมาแล้วโยกเงินกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็รับอานิสงส์ตรงนี้ไปด้วย
นอกจากนี้ ภาครัฐฯมีแผนที่จะผ่อนคลายการท่องเที่ยว พร้อมกับมีแผนการฟื้นฟู ซึ่งทำให้ไปช่วยหนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยไปด้วย ส่งผลให้หุ้นจำพวก Commodity และหุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ปรับตัวขึ้นมาหนุนตลาดฯในวันนี้ อย่างไรก็ดี การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทำให้ตลาดผันผวนบ้าง ทั้งที่ออกมาดี และออกมาไม่ดี ต่างก็เผชิญกับ Sell on fact ในระหว่างทาง
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.) นายมงคล กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะผันผวนได้ หลังจากที่ตลาดรับรู้เรื่องวัคซีนต้านโควิดมาแล้ว 2 วัน และพรุ่งนี้ก็เป็นวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์นี้ด้วย รวมถึงยังมีเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่จะต้องติดตามในวันที่ 15 ส.ค.นี้ และยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการต่อไป รวมถึงติดตามความคืบหน้าของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 อีกทั้งให้ติดตามนโยบายของรัฐบาลด้วย พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,340-1,360 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,906.61 ล้านบาท ปิดที่ 91.50 บาท เพิ่มชึ้น 6.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,855.37 ล้านบาท ปิดที่ 56.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,136.06 ล้านบาท ปิดที่ 109.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 2,543.49 ล้านบาท ปิดที่ 30.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
STGT มูลค่าการซื้อขาย 2,518.49 ล้านบาท ปิดที่ 78.25 บาท ลดลง 7.50 บาท