DOD มั่นใจ H2/63 โตรับออร์เดอร์อาหารเสริมพุ่งหลังโควิด โชว์กำไร Q2/63 พุ่งกว่า 300%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 13, 2020 17:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนิน ศรีเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าจะเห็นการเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มลูกค้ารายใหญ่หลายรายที่มีศักยภาพมีออร์เดอร์ ในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดไลน์การผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์เม็ดแคปซูลเม็ดตอก และผลิตภัณฑ์ผงชงดื่มแบบบรรจุกระป๋องได้ใช้อัตราการผลิตเกือบเต็มกำลังการผลิตแล้ว ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/63 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันบริษัทได้เดินหน้าขยายไลน์การผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ในรูปแบบซอฟท์เจล และผลิตภัณฑ์ประเภทโพรไบโอติกส์ (Probiotics) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เบื้องต้นคาดว่าจะมีความชัดเจนและสามารถเดินหน้าการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/63 เป็นส่วนช่วยผลักดันรายได้รวมและอัตรากำไรขั้นต้นเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับธุรกิจเครื่องสำอางอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างภายในให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นให้พร้อมจะรับกับคำสั่งซื้อที่จะฟื้นตัวกลับมาในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนธุรกิจเครือข่าย เริ่มส่งสัญญาณกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในไทยดีขึ้นเป็นลำดับ

นายธนิน กล่าวอีกว่า กลยุทธ์ปรับโครงสร้างองค์กรรูปแบบ Synergy กันภายใต้แนวทาง 1+1=3 ธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้ดูแลของ DOD และบริษัท พีซีซีเอ แล็บบอราเทอรี่ จำกัด (PCCA) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ประกอบธุรกิจความงามและเครื่องสำอางได้ประสานเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าทั้ง 2 กลุ่ม ทั้งผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพและกลุ่มความงามจะส่งผลให้ขยายฐานลูกค้าใหม่ให้กว้างมากขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพในธุรกิจให้มีความความหลากหลายและครบวงจรโดยจะทำให้บริษัทฯมีการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

สำหรับภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/63 บริษัทมีรายได้จากการขาย 430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 238% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 76 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 354% และ 329% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก 2563 ของบริษัทฯมีรายได้จากการขาย 772 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 212% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯมีรายได้จากการขาย อยู่ที่ 247 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 103 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% และ 75% ตามลำดับ เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

"บริษัทฯสามารถเติบโตสวนกระแสกับภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ทั้งยอดขาย กำไรจากการดำเนินงาน และกำไรสุทธิ...การเติบโตเป็นผลจากยอดคำสั่งซื้อผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เพิ่มอย่างเห็นได้ชัดเพราะมาตรฐานในการผลิตและคุณภาพของสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี"นายธนิน กล่าว

นายธนิน กล่าวอีกว่า ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/63 เติบโตโดดเด่น เนื่องจากธุรกิจผลิตอาหารเสริมเพื่อสุขภาพส่งสัญญาณการเติบโตชัดเจนหลังจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกเป็นจำนวนมาก เป็นตัวแปรกระตุ้นพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยหันมาให้ความสำคัญเรื่องการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น อีกทั้งธุรกิจผลิตสำอางยังได้รับประโยชน์จากความต้องการสินค้ากลุ่มสุขอนามัยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับธุรกิจเครือข่ายก็มีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นส่งผลให้ขาดทุนลดลงเทียบกับช่วงไตรมาสที่ 1/62 ที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ