CHAYO คาด H2/63 รับผลดีเริ่มกลับมาติดตามหนี้แบงก์รัฐ-สื่อสาร, ปรับเพิ่มเป้าซื้อหนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 17, 2020 16:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) กล่าวว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้อยู่ที่ 231.90 ล้านบาท และกำไร 86.65 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจการให้บริการเร่งรัดหนี้สินน่าจะเริ่มกลับมาติดตามหนี้ทั้งในส่วนของธนาคารพาณิชย์ของรัฐ และผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมได้ตั้งแต่เดือน ก.ย.เป็นต้นไป จากที่ก่อนหน้านี้ผู้ว่าจ้างมีนโยบายช่วยเหลือลูกค้าโดยให้หยุดติดตามหนี้ หรือยืดระยะเวลาการจ่ายเงินออกไป หรือลดการจ่ายเงินค่างวดลง เป็นระยะเวลา 3 เดือน และ 6 เดือน เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19

ขณะที่การซื้อหนี้มาบริหารในครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะมีหนี้เสียนำออกมาประมูลค่อนข้างมาก หรือประมาณ 5.5 แสนล้านบาท ประกอบด้วยหนี้ที่ไม่มีหลักประกันราว 1 แสนล้านบาท และหนี้ที่มีหลักประกันกว่า 4 แสนล้านบาท หากทางสถาบันการเงินพิจารณาออกขายหนี้เพียงครึ่งเดียว หรือประมาณ 2.7 แสนล้านบาท บริษัทก็คาดว่าขอบเขตของงาน (TOR) ที่น่าจะเข้าซื้อได้อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท ทำให้มองว่าความสามารถที่ CHAYO จะซื้อหนี้เข้ามาบริหารไม่น่าจะมีปัญหา โดยครึ่งปีแรกเข้าซื้อหนี้มาบริหารแล้วประมาณ 550 ล้านบาท ใช้งบลงทุนไปแล้ว 87.7 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับเป้าหมายการซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มเป็นมากกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 10,000 ล้านบาท และปรับงบลงทุนเพิ่มเป็นมากกว่าเดิมที่ตั้งไว้ 1,000 ล้านบาท แหล่งเงินลงทุนจะมาจากแผนการออกหุ้นกู้ในช่วงไตรมาส 4/63 วงเงิน 300-800 ล้านบาท และคาดหวังได้เงินจากการใช้สิทธิแปลงสภาพวอร์แรนต์เข้ามาเพิ่ม เพื่อรองรับการซื้อหนี้เข้ามาบริหารในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงเดือนต.ค.63 เป็นต้นไป

โดยการซื้อหนี้เสียเข้ามาเพิ่ม จะส่งผลให้มูลหนี้คงค้างปลายปีเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 60,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีมูลหนี้คงค้างในพอร์ตราว 51,233 ล้านบาท แบ่งเป็น หนี้ที่ไม่มีหลักประกัน 36,105 ล้านบาท และหนี้ที่มีหลักประกัน 15,128 ล้านบาท

นายสุขสันต์ กล่าวว่า ธุรกิจการขายหนี้ที่มีหลักประกัน ทั้ง NPL และ NPA คาดว่าจะดำเนินการขายให้กับกรมบังคับคดีได้เพิ่มขึ้น ภายหลังจากหยุดดำเนินการขายไปในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา และตั้งแต่เดือนมิ.ย.จนถึงปัจจุบันขายได้แล้ว 13 ล้านบาท ซึ่งบริษัทยังประกาศขายทรัพย์อย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลังนี้

ส่วนธุรกิจการปล่อยสินเชื่อในปีนี้ บริษัทได้ปรับลดเป้าการปล่อยสินเชื่อลงมาเหลือ 100 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 200 ล้านบาท เพื่อต้องการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้ไม่เกิน 4%

สำหรับธุรกิจการขายสินค้าออนไลน์ ปีนี้วางเป้าหมายรายได้ไว้ประมาณหลัก 1 ล้านบาท จากเพิ่งเริ่มทำธุรกิจได้เพียง 1 เดือนก็มีรายได้เข้ามาแล้วราว 3 แสนบาท ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นทำให้บริษัทฯ ยังคงมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยหลักจะมาจากธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ คิดเป็น 80% ของรายได้รวม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ