(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึมลง วิตกการเมืองร้อน-หุ้นไทยแพง-ต่างชาติขายหนัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 1, 2020 09:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะซึมตัวลง เนื่องจากตลาดฯไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา ประกอบกับคาดการณ์ว่าปัจจัยการเมืองมีโอกาสที่จะร้อนแรงขึ้นในเดือนก.ย.นี้ และหุ้นไทยปัจจุบันถือว่าแพงแล้ว เมื่อเทียบ P/E ปีหน้าอยู่ที่ 17.1 เท่า จากอดีตเทรด P/E 15-16 เท่า รวมถึงตลาดบ้านเราก็ไม่มีหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีช่วยหนุน ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานก็มีน้ำหนักในตลาดมาก และเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงด้วย จึงน่าจะเป็นปัจจัยถ่วงตลาด

นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติก็ขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน อย่างไร้ทิศทางชัดเจน พร้อมให้แนวรับ 1,300 ถัดไป 1,292-1,290 จุด ส่วนแนวต้าน 1,320-1,330 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (31 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,430.05 จุด ลดลง 223.82 จุด (-0.78%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,500.31 จุด ลดลง 7.70 จุด (-0.22%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,775.46 จุด เพิ่มขึ้น 79.83 จุด (+0.68%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 50.13 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.94 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 91.38 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 25.94 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 10.70 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 16.34 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (31 ส.ค.63) 1,310.66 จุด ลดลง 12.65 จุด (-0.96%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,428.85 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ส.ค.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (31 ส.ค.63) ปิดที่ 42.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (31 ส.ค.) อยู่ที่ -0.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.04/09 แนวโน้มแข็งค่า มีโอกาสหลุด 31.00 ขานรับตัวเลขส่งออกไทยหดตัวน้อยลง-จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ
  • แบงก์ชาติ เผยเศรษฐกิจไทย เดือน ก.ค.ดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังห่วงการระบาดของโควิด-19 แถบประเทศเพื่อนบ้าน หวั่นทำในประเทศระบาดรอบสอง ยอมรับหากต้องปิดเมือง อาจฉุด GDP หดตัวลึกกว่าคาด พร้อมห่วงภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวช้า ส่อกระทบเศรษฐกิจปีหน้า ขณะที่ลงทุนเอกชนยังติดลบหนัก เหตุเอกชนกังวลความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า
  • รฟม.จัด Market Sounding รถไฟฟ้านครราชสีมา มูลค่า 7.1 พันล้านบาท คาดชง ครม. กลางปี 64 สัมปทาน 30 ปี เปิดปี 68 ค่าโดยสาร 10-21 บาท เอกชนติงรูปแบบ PPP-Net Cost เสี่ยงสูง หวั่นไม่คุ้มค่า
  • 'สุพัฒนพงษ์' รมว.พลังงานคงเป้าหมายแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว ปี 2580 ประกอบด้วย แผนพีดีพี อีอีพี เออีดีพี ก๊าซ และน้ำมัน แต่ตั้งเงื่อนไขวัดผลสำเร็จทุกปี ลุยกำหนดน้ำมัน เชื้อเพลิงชีวภาพ บี10 และอี20 เป็นน้ำมันฐาน ยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 อี85 และแก๊สโซฮอล์ 95 ตามลำดับ กำหนดสัดส่วนจัดหาก๊าซจากอ่าวไทย 28% เมียนมา 4% และแอลเอ็นจี 68% ด้าน ธพ.เผยยอดใช้น้ำมัน 7 เดือนลด 13.8% ชี้อี85 ลดมาก 29% ขณะที่น้ำมันอากาศยานยังน็อก ลดมากถึง 53.5%
  • นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ปรับดีขึ้น ตามการใช้จ่ายภาครัฐและการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองทั้งในและต่างประเทศ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังหดตัวติดลบที่ 100% เพราะมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทยยังคงมีอยู่ ส่งผลให้ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทย ซึ่งต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แล้ว
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ ธปท.และสถาบันการเงินได้เริ่มโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ทั้งภาคธุรกิจและลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ลูกหนี้รายย่อย วิธีคือสามารถนำสินเชื่อรายย่อยของผู้ให้บริการทางการเงินเดียวกัน เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และสินเชื่อที่เกิดจากการให้เช่าซื้อ มาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยวิธีการรวมหนี้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพื่อใช้ประโยชน์จากหลักประกัน ทำให้ดอกเบี้ยลดลงเหลือไม่เกินอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (เอ็มอาร์อาร์) และทำการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ตามความสามารถของลูกหนี้ รวมทั้งทางเลือกในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้รูปแบบอื่น ๆ ที่ลูกหนี้สามารถจะดำเนินการทำให้ได้เพื่อประโยชน์ทุกฝ่าย
  • นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้หารือกับบริษัทนำเที่ยว เตรียมจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวภายในประเทศเสนอขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานและศึกษาต่อในประเทศไทย (เอ็กซ์แพท) และกลุ่มคนไทย โดยต้องเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ชุมชนต้องได้รับประโยชน์ เช่น เส้นทางท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว โดยมีกิจกรรมตีกอล์ฟให้กับกลุ่มพ่อบ้าน ส่วนกิจกรรมของกลุ่มแม่บ้านก็จัดให้เที่ยวชุมชนใกล้ ๆ สนามกอล์ฟ เพื่อไปทำกิจกรรมท่องเที่ยวและเลือกซื้อสินค้าของชุมชน เพื่อให้ภาพรวมรายได้ของตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศรวมตลอดปีนี้แตะที่ 1.23 ล้านล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TVO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 31 บาท เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งในฐานะผู้นำเข้าถั่วเหลือง ขณะที่แนวโน้มกำไร H2/63 คาดยังทรงตัวในระดับที่ดีจากปริมาณขายกากถั่วเหลืองที่สูงขึ้น และแนวโน้มการฟื้นตัวของราคาถั่วเหลืองใน Q4/63 พร้อมคาดกำไรปกติปี 2563 +15% Y-Y และโตต่อเนื่องอีก +12% Y-Y ในปี 2564 ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายที่ 2564PER เพียง 12 เท่า และให้ Dividend Yield ถึง 6.8% ต่อปี
  • BDMS (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 23.5 บาท ได้ Sentiment บวกจากภาครัฐผ่อนคลายเกณฑ์ Medical Tourists โดยเพิ่มจำนวนประเทศที่สามารถเข้ามารักษาพยาบาลตามโปรแกรม AHQ (ต้องกักตัวในโรงพยาบาล 14 วัน) จากเดิม 3 ประเทศ เป็น 138 ประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ