บลจ.กสิกรไทย เปิดขายกองทุนเทอมฟันด์ซีรีส์ใหม่ 9-14 ก.ย.เน้นตราสารหนี้ตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 8, 2020 14:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า จากกระแสการตอบรับที่ดีของผู้ลงทุนต่อกองทุน Term Fund Plus ที่ได้สร้างสถิติปิดการขายอย่างรวดเร็วภายในไม่ถึง 1 ชั่วโมง โดยกองทุน Term Fund Plus ที่เปิดขายในช่วงที่ผ่านมาสามารถระดมทุนได้สูงถึง 15,691.45 ล้านบาท (ข้อมูล ณ ต.ค. 62 - ส.ค. 63) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย เร่งเดินหน้าออกกองทุน Term Fund Plus ซีรีส์ใหม่เพื่อตอบสนองให้ทันกับความต้องการของผู้ลงทุนในภาวะที่ดอกเบี้ยต่ำ

ล่าสุดได้จัดตั้งกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2021D (KFF21D) เปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 9-14 กันยายน 2563 โดยมีขนาดกองทุนประมาณ 3,800 ล้านบาท

นายนาวิน กล่าวต่อไปว่า กองทุน KFF21D เป็นการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างบลจ.กสิกรไทย และ Invesco Hong Kong โดยมอบหมายให้ Invesco Hong Kong รับหน้าที่บริหารเงินลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลกโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย รวมถึง High Yield Bond บางส่วน ผ่านกองทุนหลัก Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2021 – III, Class C(USD)-Acc ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 60%ของพอร์ต

ส่วนบลจ.กสิกรไทย จะรับหน้าที่บริหารในส่วนที่เป็นเงินฝากต่างประเทศ ได้แก่ เงินฝาก Qatar National Bank (ประเทศกาตาร์), เงินฝาก PT Bank Rakyat Indonesia (ประเทศอินโดนีเซีย) และเงินฝาก Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน) ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 40% ของพอร์ต เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน

สำหรับมุมมองการลงทุนในต่างประเทศ ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย ทำให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ (Yield) มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่ตราสารหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือระดับที่ลงทุนได้ (Investment Grade) ในภูมิภาคเอเชีย ยังคงได้รับแรงหนุนจากการแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น (Search for Yield) ของผู้ลงทุน เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียเริ่มฟื้นตัว และบริษัทที่ออกหุ้นกู้เอกชนในเอเชียส่วนใหญ่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง

ตลอดจนหุ้นกู้เอเชียสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนจึงได้รับประโยชน์โดยตรงจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลายต่อไป และพร้อมอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน โดยระดับราคาหุ้นกู้เอเชียสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับลดลงทำให้มีผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงดูน่าสนใจยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนยังต้องติดตามความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯกับจีน ซึ่งอาจทำให้ตลาดเข้าสู่โหมด Risk-off ได้อีกครั้ง

นายนาวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน KFF21D เหมาะกับผู้ลงทุนที่สามารถถือครองหน่วยลงทุนได้เป็นระยะเวลา 1 ปี และมองเห็นโอกาสจากการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ สำหรับวันที่ 9 กันยายน 2563 ซึ่งเป็นวันเปิดเสนอขายวันแรกจะเริ่มรับคำสั่งซื้อตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป โดยผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds และธนาคารกสิกรไทย

ทั้งนี้ เมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเคตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ