ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,288.42 จุด ลดลง 5.38 จุด (-0.42%) มูลค่าการซื้อขายราว 23,162 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,289.87 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,276.38 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันทั่วหน้า หลังดัชนี Nasdaq ร่วงแรงจากแรงขายทำกำไรกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯ จากก่อนหน้านี้ได้มีการเล่นเก็งกำไร Option หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาขึ้นไปถึง 12% และเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมาก็ขึ้นไปแรง ทำให้เป็นโอกาสขายทำกำไรออกมา โดยในช่วง 3 วันที่ผ่านมาก็ร่วงไป 10% แล้ว ดังนั้น ระยะสั้นก็อาจมีรีบาวด์ขึ้นมาได้บ้าง
นอกจากนี้ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ ประกาศระงับการทดลองใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังจากผู้เข้าร่วมทำการทดสอบรายหนึ่งล้มป่วยโดยไม่สามารถอธิบายสาเหตุได้ ทำให้วัคซีนต้านไวรัสโควิดที่จะนำมาใช้ได้จริงอาจต้องล่าช้าออกไป และยังมีปัจจัยถ่วงจากข้อพิพาทระหว่างจีน และสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าจะลดระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่วนบ้านเราตอนนี้ก็ให้ติดตามการประชุมสภาผู้แทนราษฏรในวันนี้ ที่มีการเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) และยังต้องติดตามความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีลุ้นฟื้นตัวได้บ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,275 จุด ส่วนแนวต้าน 1,300 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
STGT มูลค่าการซื้อขาย 810.32 ล้านบาท ปิดที่ 72.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 789.58 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 757.31 ล้านบาท ปิดที่ 82.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 750.30 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 706.87 ล้านบาท ปิดที่ 21.40 บาท ลดลง 0.20 บาท