PRM คาดผลงาน H2/63 โตต่อเนื่อง จากเพิ่มเรืออีกอย่างน้อย 2 ลำ ดันอัตราการใช้เรือสูงสุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 11, 2020 12:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุญรักษ์ ลี้ประกอบบุญ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.พริมา มารีน (PRM) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ โดยเฉพาะกำไรจะยังเติบโตต่อเนื่อง จากครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 786.8 ล้านบาท เป็นไปตามการดำเนินธุรกิจของ 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป และปิโตรเคมีเหลว (ธุรกิจเรือขนส่งฯ) แบ่งเป็น ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศ และธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูประหว่างประเทศ, ธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป (FSU), ธุรกิจเรือขนส่งเพื่อให้การสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล (Offshore) และธุรกิจบริการจัดการเรือ

ทั้งนี้ธุรกิจเรือขนส่งฯ โดยปกติธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศครึ่งปีหลังนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามปริมาณการใช้น้ำมันในช่วงวันหยุดยาว หรือช่วงเทศกาลที่จะเติบโตประมาณ 3-7% ทุกปี ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีอัตราการใช้บริการ (Utilization Rate) อยู่กว่า 90% แล้ว ประกอบกับบริษัทฯ ยังมีแผนรับเรือใหม่เข้ามาเพิ่มเติมอีก 1 ลำ ขนาด 3,000 เดทเวทตัน (DWT) มูลค่า 200 ล้านบาท เพื่อรองรับการขนส่งฯ ในประเทศ คาดว่าจะสามารถรับมอบเรือได้ภายในครึ่งปีหลังนี้ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายบ้างแล้ว ส่วนเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูประหว่างประเทศ ปัจจุบันมีอัตราการใช้บริการเต็ม 100% แล้ว

นอกจากนี้เรือ FSU ซึ่งมีเรือด้วยกัน 8 ลำ ปัจจุบันมีอัตราการใช้บริการเต็ม 100% จากความต้องการใช้เรือเพื่อกักเก็บและผสมน้ำมันเตา และใช้กักเก็บน้ำมันดิบของกลุ่มโรงกลั่น โดยบริษัทฯ มีแผนซื้อเรือ FSU เพิ่มอย่างน้อยอีก 1 ลำ ขนาด 3 แสนเดทเวทตัน มูลค่าลงทุน 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเข้ามาประจำการได้ทันภายในปีนี้

นายบุญรักษ์ กล่าวว่า ส่วนธุรกิจเรือ Offshore หากไม่นับรวมเรือที่จะตัดออกขาย อัตราการใช้บริการจะเต็ม 100% อย่างไรก็ตามแผนขายเรือ FSO จำนวน 2 ลำ ขนาด 1 แสนเดทเวทตัน คาดว่าจะดำเนินการขายเรือฯ ได้ในครึ่งปีหลังนี้ และน่าจะบันทึกกลับเข้ามาเป็นกำไรได้ เนื่องด้วยราคาเหล็กเริ่มขยับตัวขึ้นมาแล้ว จากก่อนหน้านี้ราคาเหล็กปรับตัวลดลง และทางบริษัทฯ ตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ไปในช่วงไตรมาส 2/63

"ทิศทางครึ่งปีหลังนี้เรายังคงดำเนินงานใน 4 กลุ่มธุรกิจ โดยจะมีการเพิ่มเรือและเพิ่ม Utilization Rate ของเรือให้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงประหยัดต้นทุนด้วย เพื่อให้มีกำไรต่อเนื่อง"นายบุญรักษ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ