SABINA ยอดขาย Q3/63 ฟื้นหลังคลายล็อก-แย้มกองทุนสนใจขอข้อมูลต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 16, 2020 14:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SABINA ยอดขาย Q3/63 ฟื้นหลังคลายล็อก-แย้มกองทุนสนใจขอข้อมูลต่อเนื่อง

นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซาบีน่า (SABINA) เปิดเผยว่า แนวโน้มการขายสินค้าของซาบีน่าดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3/63 โดยยอดขายในช่องทางต่าง ๆ กลับมาแล้วถึง 90% เป็นผลจากการคลายล็อกดาวน์มาตรการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มเดินหน้าไปได้บ้างแล้ว รวมถึงยังมาจากสินค้าของซาบีน่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพและราคาที่สอดคล้องกับรายได้ของผู้บริโภคในปัจจุบัน

"ยอดขายที่กลับมา 90% นั้นต้องยอมรับว่า มาจากราคาสินค้าของเราแมทช์กับรายได้ของลูกค้า ทำให้ลูกค้าเข้าถึงและตัดสินใจซื้อได้ง่าย ขณะที่ช่วงเดือนกันยายน มีโปรโมชั่นวันที่ 9 เดือน 9 ซึ่งสินค้าของซาบีน่าทำยอดขายได้อย่างคึกคักผ่านช่องทางออนไลน์ และเป็นสินค้าที่มียอดขายสูงสุดขึ้นอันดับหนึ่งในแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำอย่างลาซาด้า และช้อปปี้ ซึ่งไม่ได้ขายดีเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น และยังขายดีในเวียดนามอีกด้วย"นายบุญชัย กล่าว

นายบุญชัย กล่าวอีกว่า ส่วนการที่ยอดขายในไตรมาส 4/63 ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายของปีจะกลับมาได้ 100% หรือไม่ ยังขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยที่บริษัทกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด ได้แก่ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระลอกที่ 2 และ 3 การกลายพันธุ์และความคืบหน้าในการผลิตวัคซีน ,ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน ที่จะกระทบการลงทุนการค้าของโลก และสถานการณ์การเมืองในประเทศ ที่ต้องติดตามว่าการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.นี้ จะมีการขยายผลหรือไม่ โดยหากว่าทั้ง 3 ปัจจัยอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ก็เชื่อว่า โอกาสที่ยอดขายจะกลับมา 100% ในไตรมาสสุดท้ายจะมีความเป็นไปได้มาก

ขณะที่หุ้น SABINA ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหุ้นเข้าใหม่ที่ติดอันดับการคำนวณดัชนี FTSE Micro Cap ที่จะเริ่มคำนวณในวันที่ 18 ก.ย.นี้ แม้ว่าดัชนีดังกล่าวอาจจจะไม่ได้มีผลกับการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น SABINA อย่างมีนัยสำคัญ แต่สะท้อนให้เห็นว่า หุ้น SABINA เป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติจับตามองมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งที่ผ่านมามีนักลงทุนสถาบันและกองทุนต่างชาติติดต่อขอข้อมูลบริษัท อย่างต่อเนื่อง เพราะการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนกลุ่มนี้นอกจากจะให้ความสำคัญกับแนวโน้มของอุตสาหกรรม รวมถึงศักยภาพในการเติบโตของบริษัทแล้ว ยังพิจารณาจากหลักความยั่งยืนของกิจการ รวมถึงธรรมาภิบาลของบริษัทด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ