"มีนาทรานสปอร์ต"ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 184 ล้านหุ้นเข้า SET ใช้ลงทุน-คืนหนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 18, 2020 15:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) ยื่น Filing version แรกเมื่อวันที่ 18 ก.ย.2563 เนื่องจากบริษัทฯจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 184 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ MENA หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ และมีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้

วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต และเพื่อจ่ายคืนหนี้สิน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ

MENA มีการแบ่งการประกอบธุรกิจออกเป็น 3 หน่วยธุรกิจดังนี้ การให้บริการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกแบบหัวลาก-หางพ่วง (Trailer) และการขนส่งด้วยรถขนส่งขนาดเล็ก 4-6 ล้อ เช่น รถควบคุมอุณหภูมิ, การให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีตหรือรถมิกเซอร์ (Mixer) และการขายสินค้าวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง

โดย MENA มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่จังหวัดสระบุรี และมีสาขาอีก 4 แห่ง ได้แก่ สาขาลาดกระบัง สาขาราชเทวี สาขาระยอง และสาขาขอนแก่น

โครงการในอนาคตจะเป็นลักษณะโครงการขยายกองยานพาหนะ ที่มีอัตราผลตอบแทนภายในขั้นต่ำ (Interal Rtte of Return หรือ IRR) โดยหากโครงการใช้เงินกู้ยืม 100% IRR ที่ได้รับจะต้องไม่ต่ำกว่าต้นทุนของเงินกู้ยืมของบริษัทฯ + 2% และหากโครงการใช้เงินกู้ยืม และเงินทุนส่วนของผู้ถือหุ้นหรือเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ IRR ที่ได้รับจะต้องไม่ต่ำกว่าต้นทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (WACC) ของบริษัทฯ + 2%

ผลดำเนินงานของบริษัทฯงวด 6 เดือนปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 959.9 ล้านบาท หนี้สินรวม 377.9 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 582.0 ล้านบาท โดยรายได้ค่าขนส่งและบริการ 303.9 ล้านบาท รายได้จากการขาย 24.6 ล้านบาท รายได้อื่น 4.6 ล้านบาท รวมรายได้ 333.0 ล้านบาท ส่วนต้นทุนการขนส่งและบริการ 250.7 ล้านบาท ต้นทุนขาย 23.0 ล้าบาท กำไรขั้นต้น 54.8 ล้านบาท กำไรสุทธิ 19.1 ล้านบาท

โดยอัตรากำไรขั้นต้นของ MENA เท่ากับ 20.9% 19.3% 18.2% และ 17.8% ในปี 2560-2562 และ 6 เดือนปี 63 ตามลำดับ โดยอัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลง เนื่องจากต้นทุนเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่ารายได้ โดยเพิ่มจากการเพิ่มจำนวนรถในการดำเนินงานเป็นหลัก

สำหรับค่าใช้จ่ายของ MENA ที่เป็นปัจจัยสำคัญจะเป็นส่วนของค่าใช้จ่ายในการบริหารซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 98.0% 99.6% 99.1% และ 99.3% ของค่าใช้จ่ายรวมในปี 2560-2562 และ 6 เดือนปี 63 ตามลำดับ โดยค่าใช้จ่ายในการบริหารนี้ส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน จากการจัดจ้างบุคลากรเพิ่มเติม รวมทั้งมีการสรรหากรรมการผู้มีประสบการณ์ทั้งด้านบัญชี การเงิน และ กฎหมาย เพื่อให้ MENA มีความพร้อมในการที่เข้าตลาดหลักทรัพย์

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ MENA ณ วันที่ 31 ก.ค.2563 คือ ครอบครัวขจรวุฒิเดช ถือหุ้น 516.64 ล้านหุ้น คิดเป็น 93.9% หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 70.4%

MENA มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ