"โมเบียส"มองหุ้นไทยยังมีเสน่ห์รอจังหวะเปิดประเทศท่องเที่ยวกลับมาหนุนเศรษฐกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 25, 2020 18:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมาร์ค โมเบียส ผู้ก่อตั้งบริษัท โมเบียส แคปิตัล พาร์ทเนอร์ส กล่าวในงานสัมมนา"Battle Strategy แผนรบ สยบวิกฤติ"ในหัวข้อเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยว่า ในช่วงโควิด มองว่ากลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบริการด้านสุขภาพ (เฮลธ์แคร์) ของไทยไปได้ดี บริษัทเทคโนโลยีชั้นสูง หรือแม้แต่ค้าปลีก ก็น่าสนใจ

อย่างไรก็ดี ผลประกอบการของกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงานที่ยังเป็นกลุ่มหลักในตลาดหุ้นไทยงยังมีความน่ากังวล เพราะคาดว่าหนี้เสียในระบบจะเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต แต่ในพอร์ตการลงทุนของตนเองไม่มีกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตามมองว่าธนาคารที่น่าจะรอดได้ต้องมีหนี้เสียน้อยที่สุด และให้บริการลูกค้าได้ดี อย่าง ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มีบริการที่ดีมากและอาจจะทำได้ดีในอนาคต

ส่วนกลุ่มพลังงาน มองว่าราคาน้ำมันน่าจะอยู่ 40-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และมีโอกาสจะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการขุดเจาะน้ำมันหรือหาก๊าซได้ ซึ่งจะช่วยให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

นายโมเบียส กล่าวว่า นักลงทุนต่างชาติสนใจตลาดหุ้นไทย และมองว่าเศรษฐกิจไทยค่อนข้างไดนามิค เพราะเป็นประเทศที่เติบโตเร็วประเทศหนึ่งในโลก แต่โควิดต้องจบ และเมื่อเศรษฐกิจไทยเปิดนักลงทนก็จะหันมาลงทุนในหุ้นไทย เพราะเอกลักษณ์ตลาดหุ้นไทยที่เป็นที่สนใจ คือ เป็นตลาดเติบโตเร็ว พนักงานไทยมีประสิทธิภาพ เอกชนไทยขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สามารถทำงานกับต่างชาติในภูมิภาคอาเซียนได้ดี แต่ที่นักลทุนต่างชาติขายหุ้นออกจากตลาดหุ้นไทย ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก

นายโมเบียส กล่าวว่า หากประเทศไทยเปิดประเทศเชื่อว่าการท่องเที่ยวจะกลับมา มีการใช้จ่ายมากขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มการใช้จ่าย ส่วนการลงทุนของนักลงทุนจีนในประเทศไทยซึ่งมีอิทธิพลมากขึ้น เห็นว่าการลงทุนจีนช่วยมากในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟความเร็วสูง และข้ามไปสิงคโปร์ ซึ่งดีต่อประเทศไทย ช่วยเพิ่มการพัฒนาชนบท

นอกจากนี้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) นั้น อยากให้เป็น Silicon valley เมืองไทย ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีช่วยให้คนต่างชาติเข้ามาทำงานในไทยได้มากขึ้น สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีเอื้อสิทธิประโยชน์ด้านภาษี และเป็นแรงกระตุ้นให้มีการลงทุนในไทยมากขึ้น

ความเห็นนายโมเบียส มองว่า อินเดีย จีน บราซิล เกาหลีใต้ ไต้หวัน เป็นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging market) อันดับต้นๆที่น่าลงทุน และเห็นว่า ไทย และแอฟฟริกาใต้ ก็มีโอกาสเติบโต โดยได้ยกตัวอย่างไต้หวันที่มุ่งพัฒนาเซมิกคอนดักเตอร์ และรัฐบาลไต้หวันมีนโยบายช่วยเหลือบริษัทเหล่านี้ สนับสนุนให้สินเชื่อ ซึ่งไทยควรทำตามแบบไต้หวัน การลงทุนด้านเทคโนโลยีจะเป็นที่น่าสนใจ

นายโมเบียส ยังกล่าวว่า ในยุคที่ดอกเบี้ยต่ำ ยิ่งทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นน่าสนใจมาก และแนะนำให้นักลงทุนหุ้นไม่ใช่แค่ในไทย ควรลงทุนตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นที่มีการเติบโตเร็ว และลงทุนทองคำ ขณะที่สภาพคล่องในตลาดเพิ่มมากขึ้น เงินล้นตลาด ส่วนการแข็งค่าของเงินบาทเป็นเพราะเงินดอลลาร์อ่อนค่ามากกว่า อย่างไรก็ดี ฝากบอกนักลงทุนว่าให้มองโลกในแง่ดี และมองด้านบวกไว้ว่าทุกอย่างจะดีขึ้นในปีหน้า เศรษฐกิจจะฟื้นตัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ