ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,207.94 จุด ลดลง 1.01 จุด (-0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 55,081.11 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,217.88 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,205.88 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 616 หลักทรัพย์ ลดลง 752 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 557 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน โดยโมเมนตัมในประเทศผ่อนคลายพอควรจากปัจจัยการเมืองลดความร้อนแรงหลังผ่านการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญแล้ว ทางรัฐบาลก็พยายามที่จะหาทางออกในการแก้รัฐธรรมนูญ ทำให้มีการเข้ามาเล่นเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว อิงหุ้นที่คาดจะมีงบการเงินไตรมาส 3/63 ออกมาดี เป็นต้น
ขณะที่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ติดลบมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในช่วงบ่ายติดลบถึง 400 จุด เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ติดลบกว่า 2% จากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ และยุโรป ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจะกระทบเศรษฐกิจ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐก็ล่าช้า ทำให้ตลาดบ้านเราในช่วงบ่ายเซไปด้วย
อย่างไรก็ดี ช่วงนี้ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/63 ทั้งของต่างประเทศและไทย ซึ่งถ้าบริษัทไหนมีกำไรดีก็มีจังหวะที่จะกระตุกได้บ้าง และให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่มีขึ้นในวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ รวมทั้งติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 ต.ค.นี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบสร้างฐานไปก่อน พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,200-1,225 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCGP มูลค่าการซื้อขาย 6,722.90 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท ลดลง 1.50 บาท
STA มูลค่าการซื้อขาย 1,788.60 ล้านบาท ปิดที่ 34.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,640.31 ล้านบาท ปิดที่ 31.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,637.16 ล้านบาท ปิดที่ 53.00 บาท ลดลง 1.25 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,287.82 ล้านบาท ปิดที่ 96.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท