CONSENSUS: โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" M เล็งผลงาน Q4/63 ฟื้นหลังเข้าไฮซีซั่น-ช้อปดีมีคืนหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 9, 2020 14:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ต่างแนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/63 ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 3/63 รับเข้าไฮซีซั่น และมาตรการช้อปดีมีคืนส่งผลหนุนทางอ้อม ดึงคนเข้ามาใช้ซื้อของและทานอาหารในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น แต่แนวโน้มยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ยังติดลบ แต่ดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อนหน้า เพราะสาขาร้านในเครือกลับมาเปิดให้บริการเต็มที่มาต่อเนื่อง และจากจำนวนลูกค้าที่เข้ามาทานอาหารในร้านเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของผลงานอาจจะต้องรอปัจจัยการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ให้คลี่คลายลงอย่างชัดเจน และสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ สามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ ทำให้ในระยะสั้นผลงานของ M จะยังถูกดดันจากปัจจัยโควิด-19 บ้าง แต่หากกลับสู่ภาวะปกติ คาดว่าผลงานจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น เพราะแบรนด์ร้านอาหารในเครือ M คนนิยมและรู้จักกันมาก ประกอบกับการที่มีกระแสเงินสด และการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ทำให้ M ยังมีความน่าสนใจ

ราคาหุ้น M ปิดเที่ยงวันนี้ที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท (+2.12%) ขณะที่ SET +2.46%

          โบรกเกอร์                    คำแนะนำ                    ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)     ซื้อ                          58.00
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)              ซื้อ                          54.00
          เคจีไอ (ประเทศไทย)             ซื้อ                          53.50
          โนมูระ พัฒนสิน                   ทยอยซื้อ                      50.00

นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า M น่าจะได้รับผลบวกทางอ้อมจากมาตรการช้อปดีมีคืนของภาครัฐที่จะหนุนให้คนมาใช้จ่ายในศูนย์การค้าเพิ่มมากขึ้นในช่วงไตรมาส 4/63 โดยร้านอาหารในเครือ M ส่วนใหญ่อยู่ในศูนย์การค้า จึงมีโอกาสที่ลูกค้าจะเข้ามารับประทานอาหารเพิ่มขึ้นด้วย โดยที่แบรนด์ร้านอาหารได้รับความนิยมและรู้จักกันอย่างมาก ทำให้คาดว่ายอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) จะติดลบน้อยลงในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 63 ขณะที่ SSSG ติดลบมาต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีจากผลกระทบโควิด-19

นอกจากนั้น ในแง่ของการดำเนินธุรกิจ M ยังมีความแข็งแกร่ง จากกระแสเงินสดที่มีอยู่ค่อยข้างมาก แม้ว่าผลการดำเนินงานอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยคาดว่าในปี 63 จะมีกำไรราว 1 พันล้านบาท หรือเกือบ 1 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนค่อนข้างมาก แต่ M ได้ปรับปรุงเรื่องการบริหารจัดการต้นทุนได้ดี ประกอบกับ ค่าใช้จ่ายการเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าบางแห่งลดลง หลังจากได้รับผลกระทบในช่วงการล็อกดาวน์ แม้ว่าจะมีแรงกดดันเข้ามาในช่วง 1-2 ปีนี้จากโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลายไปทั้งหมด แต่มองว่า M ยังมีโอกาสเติบโตขึ้นได้หากสถานการณ์กลับมาปกติ

ด้านนางสาวนารี อภิเศวตกานต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองผลงานไตรมาส 4/63 ฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 3/63 จากการที่ร้านสาขากลับมาเปิดให้บริการได้เต็มที่ แต่ยังขาดปัจจัยหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังไม่กลับมา แต่มองว่าแนวโน้มของยอดขายของสาขาเดิมในไตรมาส 4/63 อาจจะติดลบลดลงจากไตรมาส 3/63 ที่คาดว่าติดลบถึง 25% โดยแนวโน้มของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้ามากขึ้นในช่วงปลายปี และการมีมาตรการช็อปดีมีคืนจะส่งผลบวกทางอ้อมให้กับลูกค้าเข้ามารับประทานอาหารในร้านสุกี้เอ็มเค ยาโยอิ และ แหลมเจริญ ซีฟู้ดส์ มากขึ้น

ขณะที่แนวโน้มของอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/63 คาดว่าจะอยู่ใกล้เคียงกับไตรมาส 3/63 ที่ 65% จากยอดขายที่กลับมาเพิ่มขึ้น แต่ภาพรวมของ M ในระยะต่อไปยังคงมีความท้าทายจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ยังไม่กลับมาได้เร็ว จึงขาดแรงสนับสนุนยอดขาย อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของบริษัทในระยะยาวยังมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวใกล้เคียงระดับปกติได้ หากสถานการณ์โควิด-19 สิ้นสุดลง ซึ่งแบรนด์ร้านอาหารของ M ถือว่าแข็งแกร่งและได้รับความนิยมสูง

ส่วนนายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการ และหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องของ M ในช่วงไตรมาส 4/63 จากการเข้าสู่งไฮซีซั่น ประกอบกับมาตรการช้อปดีมีคืนเข้ามาช่วยหนุนทางอ้อม ทำให้มีคนเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในศูนย์การเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้คนที่เข้ามาซื้อของในศูนย์การค้าเข้ามาทานอาหารในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นเช่นกัน และแบรนด์ในเครือของ M เป็นแบรนด์ร้านอาหารที่คนนิยม โดยเฉพาะแบรนด์ MK และร้านในเครือของ M ได้เปิดให้บริการได้เต็มที่ต่อเนื่องจากไตรมาส 3/63 ซึ่งคาดว่าผลงานในไตรมาส 4/63 จะฟื้นขึ้น แต่ยังขาดปัจจัยหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ภาพรวมของ SSSG ในไตรมาสสุดท้ายแม้ว่าจะดีขึ้นจากไตรมาส 3/63 แต่คงยังเห็นการติดลบ แต่จะน้อยลงกว่าไตรมาส 3/63 ที่ติดลบกว่า 20%

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เพิ่มช่องทางการขายผ่านออนไลน์เข้ามาเสริม แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยยอดขายจากสาขาได้เต็มที่ ทำให้ผลงานของบริษัทยังถูกกดดันในช่วงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่กลับมาได้เร็ว แต่บริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีเพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร แม้ว่าจะมีการทำโปรโมชั่นค่อนข้างมากเพื่อกระตุ้นลูกค้าในประเทศให้เข้ามาทานอาหารในร้านก็ตาม ซึ่งในภาพรวมหากโควิด-19 คลี่คลายลงชัดเจน และกลับมาสู่ภาวะปกติ นักท่องเที่ยวกลับมาได้เหมือนเดิม มองว่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของ M ได้ ทำให้ภาพในระยะยาวยังมีความน่าสนใจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ