เจ.พี.มอร์แกนคาดตลาดหุ้นไทยไม่พ้นความผันผวนรอสัญญาณชัดเจนแก้ซับไพร์ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 6, 2007 17:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายอาจดนัย สุจริตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. เจ.พี.มอร์แกน(ประเทศไทย) และในฐานะประธานชมรมบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ตลาดหุ้นไทยในระยะนี้ยังคงจะผันผวนต่อไป จนกว่าทางการสหรัฐจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาการปล่อยกู้ในตลาดซับไพร์ม
"ก็คือว่า ซับไพร์มมันลึกขนาดไหน ปัญหานี้ควบคุมได้หรือเปล่า แล้วถ้ามันลึกมาก รัฐบาลจะทำอะไรหรือเปล่า เขาต้องตอบคำถามพวกนี้ ตราบใดที่คำถามพวกนี้ยังไม่ชัดตลาดฯก็จะเขวอยู่อย่างนี้"นายอาจดนัย กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจ.พี. มอร์แกนฯ กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ เนื่องมาจากนักลงทุนต่างชาติถอนเงินทุนออกไป ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ค่อนข้างปั่นป่วนจากความกังวลปัญหาซับไพร์ม ทำให้มีการถอนทุนของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นเกือบทุกแห่งในภูมิภาคเอเชีย โดยจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นไต้หวันก็ร่วงลง 3.5% อินโดนีเซียลงเกือบ 3.5% เกาหลีลง 1.6% ฮ่องกงลง 2.6%
"คือตลาดเราจิ๋วมาก ไม่เกี่ยวกับใครเลย ถ้าเขาถอนก็ถอนเป็น basket แล้วเราก็โดนไปด้วย Fundamental ตลาดเรายังดีอยู่ คือ มันช่วยไม่ได้ว่า พวก Fund ที่ลงทุนในเมืองไทย เขาอาจจะโดน redemption เกี่ยวกับเรื่อง Subprime Loan Lending เขาถึงจะต้องขายหุ้นในเมืองไทย และหุ้นในประเทศอื่น เพื่อไปจ่ายเงินให้ลูกค้า ที่ไปถอนเงินจากกองทุนของเขา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ มันเป็น Liquidity Issue มากกว่า"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจ.พี. มอร์แกนฯ กล่าว
ส่วนที่ว่านักลงทุนต่างชาติได้ถอนทุนออกไปมากหรือยังนั้นเป็นเรื่องที่ดูยาก แต่ถ้าดูการลงทุนตั้งแต่ต้นปีนี้(2550)ก็ยังคิดว่านักลงทุนต่างชาติยังถอนทุนออกไปได้น้อยอยู่
อย่างไรก็ตาม หากปัญหาของซับไพร์มคลี่คลายลง ก็เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติคงจะกลับเข้ามาลงทุนใหม่ โดยจะยังเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มบิ๊กแคป ดังนั้น ช่วงนี้นักลงทุนที่ถือหุ้นบิ๊กแคปก็น่าจะถือต่อไป ไม่ควรเทขายอย่าง panic แต่หากเล่นพวกหุ้นปั่นก็อาจจะมีปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะไม่ใช่หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี
ดัชนี SET วันนี้(6 ส.ค.) เปิดตลาดที่ 815.87 จุด ลดลง 21.86 จุด(-2.61%) โดยดัชนีปรับตัวแตะระดับสูงสุดที่ 821.79 และต่ำสุดที่ 813.14 จุด ขณะที่วันนี้นักลงทุนต่างชาติได้ขายสุทธิ 2,693.57 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ