TYCN ซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ"เปาเฮิง สตีล (เวียดนาม)" เป็นเงิน 64.6 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 8, 2007 08:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายหยาง โป๋ หลง กรรมการ บมจ.ไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) หรือ TYCN เปิดเผยว่า  คณะกรรมการบริษัทในวันที่ 7 สิงหาคม 2550 ได้อนุมัติการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท เปา เฮิง สตีล (เวียดนาม) จำกัด (BHS) ที่บริษัทไทยคูน กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (TGI) (ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TYCN ถือหุ้น 76.31%) สละสิทธิ์ให้ TYCN 1,900,000 เหรียญสหรัฐ ให้กับ TYCN เป็นเงิน 64.6 ล้านบาท (ตามอัตราแลกเปลี่ยน 1เหรียญสหรัฐ ต่อ 34 บาท) และมีสัดส่วน 19% ของทุนจดทะเบียน
โดยการชำระเงิน จะจ่ายเป็นเงินสดโดยการโอนเข้าบัญชีของ บริษัทเปาเฮิง สตีล (เวียดนาม) จำกัด ภายในเดือนกันยายน 2550 ซึ่งเป็นการใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ซึ่งไม่มีผลกระทบกับเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
บริษัทเปาเฮิง สตีล (เวียดนาม) จำกัด เริ่มจัดตั้งเมื่อ วันที่ 15 ธันวาคม 2547 เริ่มดำเนินธุรกิจเชิงพานิชย์ในเดือนเมษายน 2550 มีมูลค่าตามบัญชีตามสัดส่วน 34.56 ล้านบาท จากการประเมินจากโครงการมี IRR เท่ากับ 22.62% ซึ่งสามารถสร้างศักยภาพในการสร้างกำไรได้ในอนาคต
บริษัท เปาเฮิง สตีล (เวียดนาม) จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์เหล็ก เช่นเหล็กแผ่นรีดร้อน เหล็กเส้นรีดร้อน เหล็กเส้นชุบสังกะสี เหล็กแผ่นชุบสังกะสี เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต เหล็กโครงสร้างเหล็กแผ่นอบอ่อน ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผลิตและขายในประเทศเวียดนาม ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัฑ์ของ TYCN คือ เหล็กลวด เหล็กลวดอบอ่อน สกรู และสลักเกลียว โดยต้องการเพิ่มทุน 4,000,000 เหรียญสหรัฐ หลังจากเพิ่มทุนแล้วจะมียอดทุนจดทะเบียนที่ 10,000,000 เหรียญสหรัฐจากเดิม 6,000,000 เหรียญสหรัฐ
สำหรับประโยชน์ในการเข้าลงทุนดังกล่าว เพื่อเพิ่มช่องทางการขายสินค้า โดยขายสินค้าให้กับบริษัทเปา เฮิง สตีล (เวียดนาม) จำกัด เพื่อผลิตและจำหน่ายต่อไปยังลูกค้าทั่วไป บริษัทจะดำเนินการโดยอ้างอิงราคาตลาด ในการเพิ่มทุนครั้งนี้ของบริษัทเปาเฮิง สตีล
(เวียดนาม) จำกัด เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะทำให้สามารถผลิตและขายได้เต็มที่ มีศักยภาพสร้างกำไรได้ในอนาคต ก่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทฯ
นอกจากนี้ การที่บริษัทลงทุนในประเทศเวียดนาม 2 แห่ง คือ TSI และ บริษัทเปาเฮิง สตีล (เวียดนาม) จำกัด โดยลงทุนใน TSI เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวของบริษัทในการลงทุนในอุตสาหกรรมต้นน้ำ เพื่อที่จะสร้างความมั่นคงในเรื่องแหล่งของวัตถุดิบ ลดต้นทุนการผลิต ส่วนลงทุนใน บริษัทเปาเฮิง สตีล (เวียดนาม) จำกัด เพื่อเพิ่มช่องทางในการขายสินค้าทำให้เพิ่มยอดขาย ซึ่งเป็นผลดีกับบริษัททั้งทางตรงและทางอ้อม และผู้ถือหุ้นจะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ