ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,415.72 จุด เพิ่มขึ้น 14.09 จุด (+1.01%) มูลค่าการซื้อขาย 117,120.20 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,428.36 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,392.42 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 860 หลักทรัพย์ ลดลง 809 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 478 หลักทรัพย์
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ถือว่าเหวี่ยงตัวแรงในการปรับขึ้น/ลงระหว่างเทรด จากความไม่มั่นใจตลาดเท่าไร ทำให้เผชิญแรงขายทำกำไรออกมาระหว่างทาง ท่ามกลางการติดตามการชุมนุมทางการเมือง ทำให้ตลาดเกิดความผันผวนแต่ยังบวกได้ จากแรงหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน, กลุ่มปิโตรเคมี ขานรับราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มแบงก์ก็ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย จากมุมมองที่ดีขึ้นหลังการประชุมนักวิเคราะห์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
โดยในช่วงเช้าตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามดาวโจนส์ ที่ตอบรับความคืบหน้าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ส่วนในช่วงบ่ายเริ่มกลับมาดูปัจจัยในประเทศในเรื่องการชุมนุมทางการเมือง ทำให้ตลาดฯเผชิญแรงขายทำกำไรระหว่างทาง
ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้บวกได้เล็กน้อย ขณะที่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สติดลบ โดยวันนี้ตลาดในกลุ่ม TIP ดูจะอ่อนลง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะขึ้นไปแรงก่อนหน้านี้ก็เลยพักตัวบ้าง
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ย.) นายมงคล กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะพักตัวหลังขึ้นไปมาก และรอปัจจัยใหม่เข้ามา รวมถึงขึ้นอยู่กับการชุมนุมทางการเมืองในประเทศด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 8,085.14 ล้านบาท ปิดที่ 41.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 6,817.34 ล้านบาท ปิดที่ 114.50 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,515.44 ล้านบาท ปิดที่ 101.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 4,394.21 ล้านบาท ปิดที่ 67.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
SAWAD มูลค่าการซื้อขาย 2,827.31 ล้านบาท ปิดที่ 57.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท