JR มั่นใจนลท.ตอบรับคึกคักหลังหุ้นเข้าเทรด 30 พ.ย. จากแนวโน้มผลงานโตดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 27, 2020 15:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

JR มั่นใจนลท.ตอบรับคึกคักหลังหุ้นเข้าเทรด 30 พ.ย. จากแนวโน้มผลงานโตดี

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ของบมจ.เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ (JR) เปิดเผยว่า บริษัทมีความมั่นใจว่าเมื่อหุ้น JR เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน

พร้อมทั้งเชื่อว่าจะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญทั้งงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้า และระบบสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ แบบครบวงจร ผู้บริหารมีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญมายาวนานกว่า 27 ปี ซึ่งได้รับความเชื่อถือจากคู่ค้า รวมทั้งมีความสามารถบริหารต้นทุนได้ดี ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำกำไรโดดเด่น

ทั้งนี้ JR รายงานผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3/63 มีกำไรสุทธิ 33.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129.61% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 14.70 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 464.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 263% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 127.96 ล้านบาท

ส่วนงวด 9 เดือนของปี 63 มีกำไรสุทธิ 63.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.25% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 40.76 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 929.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.87% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 637.06 ล้านบาท

ขณะที่มีงานในมือที่ลงนามในสัญญาแล้ว (backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3/63 อยู่ที่ 6,169.53 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในไตรมาส 4 ปีนี้อีก 322 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ปี 64-66 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู หนุนรายได้ของบริษัทให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

JR ประกอบธุรกิจให้บริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้างและติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร และจำหน่ายอุปกรณ์รวมถึงบริการบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 5.50 บาท ระหว่างวันที่ 20-24 พ.ย.ที่ผ่านมา

"สำหรับการกำหนดราคา IPO ที่ระดับ 5.50 บาทต่อหุ้น เป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้า และระบบสื่อสาร มีโอกาสการเติบโตต่อเนื่อง เพราะภาครัฐและเอกชนมีความจำเป็นต้องเร่งลงทุน เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีโอกาสประมูลโครงการเพิ่มเติมในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพื่อกระจายแหล่งที่มาของรายได้และกำไรให้เพิ่มขึ้น สนับสนุนให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด"นายสมภพ กล่าว

ด้านนายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ JR กล่าวว่า เมื่อหุ้นเข้าซื้อขายใน SET น่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนที่จองซื้อหุ้น เนื่องจากที่ผ่านมากระแสตอบรับจากการโรดโชว์ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันเมื่อเปิดให้จองซื้อหุ้นก็พบว่า มีความต้องการเกินกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรร ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่ออนาคตของบริษัท และเชื่อว่าจะมีโอกาสเติบโตในระยะยาว สอดคล้องกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมของงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสาร โดยเฉพาะงานโครงการเกี่ยวกับภาครัฐ ที่คาดว่าจะมีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง

"JR เป็นบริษัทเอ็นจิเนียริ่งไฮสเกล มีศักยภาพการเติบโตโดดเด่น เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการขยายตัวได้อีกมาก รวมถึงการมีพันธมิตรรายใหญ่ที่เป็นคู่ค้ามายาวนาน ขณะที่มีโอกาสการเติบโตมากขึ้น มีฐานทุนที่แข็งแกร่ง กระแสเงินสดที่ดี โดยเฉพาะเมื่อเข้าใน SET จะทำให้ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และช่วยผลักดันการเติบโตให้ก้าวกระโดด"นายจรัญ กล่าว

นายจรัญ กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ปัจจุบัน JR รุกขยายงานไปยังงานวิศวกรรมในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ลูกค้าในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ โดยหลังสิ้นงวดไตรมาส 2 บริษัทได้งานเพิ่มเติมกว่า 420 ล้านบาท โดยเป็นงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยให้กับโครงการของบมจ.ไทยออยล์ (TOP) ซึ่ง JR รับงานจากกิจการร่วมค้า Petrofac South East Asia, Saipem Singapore และ Samsung Engineering รวมทั้งงานการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยที่อาคารหมอชิต คอมเพล็กซ์ นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ให้กับลูกค้าภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ