GPSC วางงบลงทุนปี 64 ราว 2 หมื่นลบ.ใช้ในโครงการ GLOW SPP Replacement,ERU

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 4, 2020 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางวนิดา บุญภิรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เปิดเผยว่า บริษัทวางงบลงทุนในปี 64 ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท จากงบลงทุนในช่วง 5 ปี (64-68) ที่วางไว้ 70,000 ล้านบาท โดยหลักจะใช้ลงทุนในโครงการ GLOW SPP Replacement (Stage 1: Glow Energy Phase 2) หรือโรงไฟฟ้าพลังงานร้อนร่วม (Gas-fired Cogeneration) กำลังการผลิตไฟฟ้า 192 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 300 ตัน/ชั่วโมง มีมูลค่าการลงทุนรวมที่ 25,000 ล้านบาท และมีกำหนดการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 65 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมพื้นที่เพื่อเริ่มการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่

โครงการหน่วยผลิตไฟฟ้าและไอน้ำจากกากน้ำมัน Energy Recovery Unit (ERU) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพลังงานสะอาด (CFP) ของบมจ.ไทยออยล์ (TOP) มีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ 250 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 175 ตัน/ชั่วโมง มีมูลค่าการลงทุนรวม 20,000 ล้านบาท และมีการกำหนด COD ในปี 66 โดยปัจจุบันได้ดำเนินการไปแล้วราว 48% รวมถึงการซ่อมบำรุงต่าง ๆ เพิ่มเติม

ส่วนผลการดำเนินงานในปี 64 คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับตัวลดลงมาปีนี้ ส่งผลต่อราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าลดลงตามไปด้วย ขณะเดียวกันราคาถ่านหิน ก็ยังคาดอยู่ในระดับต่ำที่ 60-65 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากดีมานด์ในจีนและอินเดียอยู่ในระดับต่ำ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทอาจได้รับแรงกดดันจากอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) ที่ยังปรับตัวลดลงต่อในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.64 มาอยู่ที่ -15.32 สตางค์/หน่วย จากงวดปัจจุบัน (ก.ย.-ธ.ค.63) ที่ -12.43 สตางค์/หน่วย ซึ่งกระทบต่อรายได้ของบริษัทอยู่พอสมควร

ขณะที่การก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า Rayong Waste to Energy หรือ WTE กำลังการผลิตราว 9.8 เมกะวัตต์ คาดว่าจะจำหน่ายไฟฟ้าไตรมาส 2/64

"ในปีหน้าบริษัทจะเดินหน้ากลยุทธ์การทำธุรกิจในหลายส่วน ตามแผนงานที่ตั้งไว้ทั้งในเรื่องของการเติบโตไปกับ กลุ่ม ปตท. การขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงการเดินหน้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 5,031 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการถือหุ้น เป็นโครงการ IPP จำนน 48% โครงการ SPP จำนวน 43% โครงการ ERU จำนวน 5% และ อีก 4% คือ VSPP และ โครงการประเภทพลังงานทดแทน โดยในระยะ 5 ปี จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทน (Renewable Energy) เป็น 30% จากปัจจุบันที่ 11% และคาดว่าในระยะเวลา 10 ปี กลุ่มปตท. จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เป็นพลังงานทดแทนที่ 8 กิกะวัตต์ โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการลงทุนในประเทศไทย เมียนมา เวียดนาม และไต้หวัน โดยช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเข้าไปลงทุนในไต้หวันแล้ว ในโครงการโซลาร์ ขนาดกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ ซึ่งมองว่าเป็นโครงการที่ดีที่จะสร้างผลตอบแทนให้แก่บริษัทต่อเนื่อง" นางวนิดา กล่าว

นางวนิดา กล่าวว่า ด้านผลการดำนินงานในไตรมาส 4/63 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันผลการดำเนินงานในปี 63 ให้เติบโตดีกว่าปี 62 ประกอบกับการรับรู้ผลประกอบการของบมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) เข้ามาเต็มปีด้วย อย่างไรก็ตามบริษัทยังมุ่งเน้นการทำ Synergy ร่วมกับ GLOW โดยประเมินว่าในปีนี้จะมีมูลค่า Synergy อยู่ที่ 500 ล้านบาท จาก 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทได้รับรู้มูลค่า Synergy แล้ว 466 ล้านบาท ขณะที่คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจนสามารถรับรู้มูลค่าที่ประมาณ 1.6 พันล้านบาท ในปี 67


แท็ก วนิดา   gps   gas  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ