นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสรรหาบริษัทจดทะเบียน กล่าวว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้มีการประชุมครั้งแรกในวันนี้ เพื่อหารือถึงแนวทางการเพิ่มบริษัทจดทะเบียน โดยในระยะสั้น จะเร่งกำหนดแผนปฏิบัติการเพื่อให้บริษัทเป้าหมายยื่นคำขอเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ทันในปีนี้ "คณะอนุกรรมการฯ จะให้สิทธิประโยชน์เพื่อจูงใจให้บริษัทเข้าจดทะเบียนออกไปถึงสิ้นปี 50 หากยื่นไฟลิ่งทันในปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการจูงใจให้มีบริษัทเข้ามาระดมทุนผ่านตลาดได้เพิ่มมากขึ้น"นายปกรณ์ กล่าว ที่ประชุมได้มีการกำหนดมาตรการระยะสั้นโดยได้รับความร่วมมือจากผู้แทนของสำนักงานก.ล.ต.ในเชิงการตลาดที่จะร่วมไปเข้าพบบริษัทเป้าหมาย ที่เป็นลูกค้าภายใต้สภาอุตสาหกรรม ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.)และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME BANK)พร้อมกับคณะอนุกรรมการฯ และทีมการตลาด พร้อมทั้งจะจัดให้มี Fast Track ในระยะ 4 เดือนจากนี้ รวมทั้งจะมีการกำหนดสิทธิประโยชน์ให้บริษัทที่สนใจเข้าจดทะเบียนในกลุ่มนี้เป็นการเฉพาะเพื่อจูงใจด้วย ส่วนการกำหนดมาตรการระยะยาว ซึ่งจะต้องมีการเสนอแผนเชิงปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานด้านการกำหนดนโยบาย รวมทั้ง การตั้งเป้าหมายที่จะเชิญชวนบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศเข้าจดทะเบียนในไทย และเร่งหารือเพื่อจัดทำรายละเอียดของแผนต่อไป "จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เพิ่มให้น่าจะมีหลายบริษัทที่สนใจ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีกี่บริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนในช่วงนี้" นายปกรณ์ กล่าว นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ เห็นว่าตลาดทุนมีบทบาทสำคัญในการเป็นแหล่งระดมทุนของภาคธุรกิจ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าในช่วง 10 ปีหลังวิกฤติเศรษฐกิจ บริษัทเอกชนได้ใช้ประโยชน์จากตลาดทุนโดยการระดมทุนไปกว่า 1.7 ล้านล้านบาท มากกว่าการปล่อยสินเชื่อสุทธิส่วนเพิ่มจากธนาคารพาณิชย์ถึง 1.8 เท่า ดังนั้น จึงควรส่งเสริมให้ภาคธุรกิจได้ใช้ประโยชน์จากตลาดทุนให้มากยิ่งขึ้น