CPF เผยกิจการตปท.ผลักดันธุรกิจโตในช่วง 3-5 ปี คาดมีสัดส่วนเพิ่มเป็น20%

        นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า จากการได้เข้าพบนักลงทุนต่างประเทศในงานไทยแลนด์โฟกัส ประเด็นที่กองทุนให้ความสนใจบริษัทมากเป็นพิเศษ คือ กลยุทธ์การเข้าไปลงทุนในประเทศต่างๆ ที่มีศักยภาพ ได้เริ่มส่งผลตามที่บริษัทคาดหวังไว้ และนับจากนี้ไปจะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันการเจริญเติบโตของธุรกิจโดยรวมของบริษัทด้วย  
          "คาดว่ารายได้ส่วนนี้ ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า น่าจะมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 20 ของรายได้รวมเป็นอย่างน้อย" นายอดิเรก กล่าว   
          นอกจากนี้นักลงทุนต่างประเทศยังให้ความสนใจกับภาวะราคาเนื้อสัตว์ทั่วโลก และในประเทศไทยอย่างมาก เนื่องจาก ณ ปัจจุบันธุรกิจอาหารจากเนื้อสัตว์ ได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก  ซึ่งในท้ายที่สุด จะส่งผลให้ราคาเนื้อสัตว์ทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นจากในอดีตตามต้นทุนที่สูงขึ้น   
          แต่นายอดิเรก กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าปัญหาและอุปสรรคในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาได้ผ่านพ้นไปแล้ว และสถานการณ์ต่างๆ ก็ดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก แม้ว่าภาวะการบริโภคภายในประเทศจะยังคงทรงตัวอยู่  แต่ภาวะราคาเนื้อสัตว์ในประเทศไทยก็ปรับตัวสูงขึ้นกว่าต้นทุนการผลิตแล้ว  เนื่องมาจากภาวะผลผลิตที่หดตัวลง
          "CPF มั่นใจว่า ธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง จะพลิกฟื้นกลับมามีกำไร และจะส่งผลดีต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า ด้วยกลยุทธ์หลักในการขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพ การผลักดันการส่งออกจากประเทศไทย การมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าปรุงสุกพร้อมรับประทาน และการสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่ารายได้ของซีพีเอฟในปีนี้จะเติบโตได้ถึงร้อยละ 10 แน่นอน"  นายอดิเรก กล่าว