KH ยังไม่ตัดสินใจถอนตัวจากกองทุนสปส.,คาดรายได้ปี 50 โต 15% จาก ปี 49

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 25, 2007 15:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (KH) รอผลการเจรจาระหว่างโรงพยาบาลเอกชน 112 แห่งกับภาครัฐในวันที่ 1 ต.ค.นี้ว่าจะมีทางออกอย่างไรในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากระบบการเบิกจ่ายเงินกองทุนประกันสังคม โดยขณะนี้ KH ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกกองทุนฯ หรือไม่ แต่ก็ยอมรับว่าประสบปัญหาค่อนข้างมากทั้งระเบียบขั้นตอนการเบิกจ่ายที่ล่าช้า และไม่เห็นด้วยกับการปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัวของผู้ประกันตนในปี 51 ค่อนข้างต่ำ 
อย่างไรก็ตาม KH เชื่อว่าการเจรจาน่าจะได้ข้อยุติที่ดี เพราะทั้งสองฝ่ายคงต้องนึกถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือผู้ประกันตนที่เป็นผู้ป่วย ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกันตนที่เลือกใช้บริการกับโรงพยาบาลของ KH ราว 5 แสนราย และปัจจุบันก็ยังทำหน้าที่ให้บริการแก่ผู้ประกันตนอย่างเต็มที่ โดยนึกถึงผู้ป่วยเป็นหลัก
สำหรับผลประกอบการในปีนี้ คาดว่ารายได้จะเติบโต 15% จาก 3.38 พันลบ.ในปี 49 และแนวโน้มผู้ใช้บริการในช่วงครึ่งหลังของปี 50 ยังดีต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก ส่วนสาขาใหม่ที่พัทยายังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ราวกลางปี 52 โดยประเมินว่าจะมีผู้มาใช้บริการค่อนข้างหนาแน่น
แหล่งข่าว KH เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า กำลังรอดูวันที่ 1 ต.ค.นี้ว่า ผลการเจรจากันจะออกมาเป็นอย่างไร กส่วนจะถอนตัวหรือไม่ถอนต้องมาพิจารณากันอีกที เพราะผู้เสียหายคือผู้ประกันตน ซึ่งทางโรงพยาบาลต้องรับผิดชอบด้วย เพราะผู้ประกันตนไว้กับ KH มีมากถึง 5 แสนราย แบ่งเป็น โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค 1 แสนราย รัตนาธิเบศร์ 1 แสนราย ประชาชื่น 1 แสน ที่เหลือเป็น สาขาสุขาภิบาล 3,สระบุรี และศรีบุรินทร์ รวมกัน
"เราจะเลือกวิธีที่ดีที่สุด ประนีประนอมที่สุด คิดว่าทางสปส.(สำนักงานกองทุนประกันสังคม)เองก็คงมองผู้ประกันตนเป็นหลักเหมือนกัน เชื่อว่าน่าจะคุยกันได้ และได้ข้อยุติที่ดี..ทาง สปส.น่าจะเร่งทำทุกอย่างให้ชัดเจนมากขึ้น"แหล่งข่าว กล่าว
ทั้งนี้หากถามว่าเห็นด้วยกับสิ่งที่โรงพยาบาลเอกชน 112 แห่งออกมาเรียกร้องหรือไม่ ก็ต้องบอกว่ากองทุนทดแทนฯจ่ายเงินให้โรงพยาบาลล่าช้ามาก การจ่ายต่อบิลนานเป็นปี และเป็นแบบนี้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว สปส.ควรเห็นใจฝ่ายโรงพยาบาลเหมือนกัน เพราะจ่ายเงินไปแล้วกว่าจะเบิกเงินคืนได้ใช้เวลานานเป็นปี ซึ่งเข้าใจว่าคงมีปัญหาที่ระบบภายในกองทุนฯเอง ถึงจะมีการเจรจากับผู้บริหารกองทุนฯไปแล้วก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น แต่ที่ทุกรายยังต้องทำสัญญาด้วยเพราะเห็นแก่บรรดาลูกจ้าง
อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลยังคงให้บริการแก่ผู้ประกันตนเต็มที่เหมือนเดิม เพียงแต่การบริการอาจจะล่าช้าไปบ้างเพราะจำนวนผู้มาใช้บริการในแต่ละวันค่อนข้างหนาแน่น แต่หลังจากข่าวออกไปก็ยังไม่มีผู้ประกันตนสอบถามเข้ามาเลยว่าทางโรงพยาบาลจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ โดยยังเข้ามาใช้บริการเป็นปกติ
"ตั้งแต่มีข่าวออกไป ยังไม่มีผู้ประกันตนมาถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แสดงว่ายังมั่นใจในการบริการ และเราก็ยังให้บริการตามปกติ"แหล่งข่าว กล่าว
*คาดรายได้ปี 50 โต 15% จาก 3.38 พันลบ.ในปี 49
แหล่งข่าว คาดว่า รายได้ปี 50 จะเติบโต 15% จาก 3,388.49 ล้านบาทในปี 49 ซึ่งเป็นอัตราเติบโตในระดับเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากแนวโน้มผู้มาใช้บริการในช่วงครึ่งปีหลังยังดีอยู่
เช้านี้หนังสือพิมพ์ระบุว่าความเห็นของนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์อย่างน้อย 3 แห่งว่า แม้ KH จะถูกกดดันจากโครงการประกันสังคม แต่คาดว่ารายได้และกำไรไตรมาส 3/50 ยังขยายตัวที่ 4.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
แหล่งข่าว กล่าวว่า สำหรับไตรมาส 4/50 ซึ่งโดยปกติจะเป็น High Season และประกันจะหมดอายุในช่วงนั้น คนก็จะรีบมาใช้บริการตรวจสุขภาพกันมาก
นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลเพิ่งจะปรับปรุงสาขาที่บางแคและรัตนาธิเบศร์ ซึ่งเพิ่งจะเปิดให้บริการเมื่อ ส.ค.50 และมีการปรับราคาค่าบริการ ค่าห้องพิเศษขึ้นอีก 5% สำหรับลูกค้าเงินสดที่ทำประกันชีวิต แต่อย่างไรก็ตามค่าห้องที่ปรับเพิ่มขึ้นก็ยังต่ำกว่าเพดานที่บริษัทประกันจ่าย ซึ่งหลังเปิดบริการพบว่าจำนวนผู้มาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น เช่น รัตนาธิเบศร์ก่อนปรับปรุงจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ 700-800 คน/วัน แต่ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1 พันคน/วัน
แหล่งข่าว กล่าวว่า ปัจจุบัน KH มีโรงพยาบาลในเครือ 6 สาขา คือ ประชาชื่น บางแค รัตนาธิเบศร์ สุขาภิบาล 3 สระบุรี และศรีบุรินทร์ ซึ่งสาขาประชาชื่น บางแค รัตนาธิเบศร์ มีจำนวนผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 1-2 พันคน/สาขา
"ถ้าเรายังสามารถโตในระดับ 15% ในขณะที่สาขาเรายังมีเท่าเดิม ก็โอเคนะ"แหล่งข่าว กล่าว
*คาดสาขาใหม่ที่พัทยากลาง เปิดบริการกลางปี 52
แหล่งข่าว กล่าวว่า โรงพยาบาลเกษมราษฎร์พัทยากลางน่าจะเปิดบริการได้ประมาณกลางปี 52 และจะเริ่มมีรายได้เข้ามาในทันที โดยมองว่าพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพมาก และมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานพอจะเป็นคู่แข่งได้เพียงรายเดียว ทำให้ประเมินว่าจะมีประชาชนในพื้นที่เข้ามาใช้บริการมากพอสมควร
"เราน่าจะเป็น New Market ของพื้นที่ คนน่าจะชอบลองของใหม่ น่าจะเป็นโอกาสของเรา ถ้าเราบริการดี แพทย์ดี ทุกอย่างดีหมด เราก็น่าจะแชร์ตลาดตรงนั้นได้"แหล่งข่าว กล่าว
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ พัทยากลาง เป็นโรงพยาบาลขนาด 200-250 เตียง ใช้งบลงทุนจำนวน 700-800 ล้านบาท อยู่ระหว่างขออนุมัติเรื่องสิ่งแวดล้อม
*เร่งหาบริการสุขภาพใหม่ๆเสริม
แหล่งข่าว กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลพยายามหาบริการสุขภาพใหม่ๆเข้ามาเรื่อยๆ โดยล่าสุดที่รัตนาธิเบศร์ มีซีที สแกน 64 สไลด์, บางแคเพิ่งเปิดศูนย์การได้ยิน, ที่ประชาชื่นกำลังสั่งซื้อเครื่องมือสำหรับเปิดเป็นศูนย์ดวงตา ซึ่งคิดค่าบริการระดับกลาง เนื่องจากลูกค้ากว่า 90% เป็นคนไทย ส่วนลูกค้าต่างชาติมีประมาณ 5-8% เว้นแต่ช่วงที่เป็น Holiday จะมีลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการเสริมความงาม
"ที่นี่จะดังมากเรื่องทำศัลยกรรม โดยดาราในสังกัดโทรทัศน์ช่องนึงชอบมาทำกับคุณหมอท่านนึงของเรา ก็เลยโด่งดังไปถึงชาวต่างชาติด้วย"แหล่งข่าว กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ