(เพิ่มเติม1) AP คาดปี 50 รับรู้รายได้เกินเป้า 7 พันลบ./ซื้อที่ดินเกินงบกว่าพันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 10, 2007 16:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (AP) คาดว่า ปีนี้บริษัทจะมียอดรับรู้รายได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิมที่ 7 พันล้านบาท โดยครึ่งแรกของปีนี้รับรู้รายได้ไปแล้ว 3 พันล้านบาท และครึ่งปีหลังจะรับรู้รายได้อีกกว่า 4 พันล้านบาท จากงานในมือ(backlog) ณ ปัจจุบันที่มีอยู่ 1.4 หมื่นล้านบาท  ที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปี 51-52   
ทั้งนี้ ยอดรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลัง จะมาจากโครงการคอนโดมิเนียมกว่า 2 พันล้านบาท และ โครงการแนวราบอีกกว่า 2 พันล้านบาท
ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ส.ค.50) บริษัทฯมียอดขายคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ Life 1.3 พันยูนิต หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.6 พันล้านบาท และบริษัทจะเปิดอีก 3 โครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ Life มูลค่า 2.84 พันล้านบาท หรือ 1,209 ยูนิต เป็นโครงการ Life สุขุมวิท, Life รัชดา-ห้วยขวาง และโครงการ Life พหล 18 ทั้งสามโครงการจะเปิด Grand opening ในวันเสาร์นี้ (15 ก.ย.)
นอกเหนือจากการเปิดคอนโดฯ 3 โครงการแล้ว บริษัทยังมีแผนจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการ เป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ รวมมูลค่า 1 พันล้านบาท
นายอนุพงษ์ กล่าวว่า สัดส่วนรายได้ของ AP ในปีนี้ยังคงเป็นสัดส่วนที่มาจากคอนโดฯ 20-30% ที่เหลือเป็นแนวราบ และจะเป็น 50: 50 ในปี 52 โดยภาพรวมของธุรกิจคอนโดฯ ยังมีการแข่งขันอยู่ในระดับที่สูง การที่จะอยู่ได้จะต้องมีทำเลที่ดี และติดแนวรถไฟฟ้า ซึ่งถือว่ากลุ่มผู้บริโภคดังกล่าวยังมีอยู่สูง
"ยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมา รายใหญ่จะกินมาร์เก็ตแชร์จากรายย่อยไปค่อนข้างเยอะ เพราะหากพิจารณาจะเห็นว่ารายใหญ่มีมาร์เก็ตแชร์ เกินกว่า 50%ทั้งนั้น ดังนั้นรายย่อยหากไม่โตจะอยู่ไม่ได้ภายใต้ต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นและการแข่งขันสูง" นายอนุพงษ์ กล่าว
นายอนุพงษ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังใช้งบลงทุนซื้อที่ดินไปถึง 3 พันล้านบาทเพื่อรองรับโครงการในอนาคต เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้เดิมที่ 2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ในปีหน้าจะเปิดตัวโครงการใหม่อีกอย่างน้อย 7 โครงการ โดยขณะนี้ซื้อที่ดินไปแล้ว 2 โครงการ และอีก 5 โครงการจะเป็นการซื้อที่ดินเพิ่ม โดยจะทยอยซื้อปีนี้ และคาดว่าในปีหน้ายอดรับรู้รายได้จะมากกว่าปีนี้ค่อนข้างมาก โดยมองว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 7.7 พันล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ