(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งซึมคล้ายตปท. เล็งกลุ่มพลังงานกดดันหลังราคาน้ำมันอ่อนลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 19, 2021 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งซึม ๆ ในช่วงรอดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยประกาศออกมา ซึ่งตลาดบ้านเราคงจะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ติดลบ เช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรป ซึ่งรับแรงกดดันจากแรงขายของกองทุนในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติที่ยังขายอยู่ อีกทั้งราคาน้ำมันก็ได้ปรับตัวลงด้วยน่าจะมากดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานบ้าง

อย่างไรก็ดี แรงซื้ออาจมีเข้ามาที่หุ้นในกลุ่มโรงกลั่นหลังค่าการกลั่นเช้านี้ขึ้นมาแถว 2.32 เหรียญ/บาร์เรล สูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี หลังจากที่โรงกลั่นในรัฐเท๊กซัสได้ Shutdown ทำให้ Supply หายไป ค่าการกลั่นก็เลยดีดตัวขึ้น แต่ทั้งนี้ราคาถ่านหินได้ปรับตัวลง 10% เมื่อวานนี้จึงให้ระวังแรงขายของหุ้น BANPU ทั้งนี้ช่วงนี้ตลาดฯคงจะเป็นลักษณะของการเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็ก เพราะไม่ต้องเจอแรงขายจากองทุนและต่างชาติ แต่หุ้นขนาดใหญ่ยังถูกดดันอยู่ ซึ่งก็น่าจะเทรดดิ้งหุ้นที่มี Story และมีงบฯออกมาดี

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ได้อ่อนค่าลงน่าจะช่วยให้แรงขายของต่างชาติชะลอได้บ้าง ซึ่งก็ต้องรอติดตามดู พร้อมให้แนวรับ 1,510-1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,514-1,520 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (18 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,493.34 จุด ลดลง 119.68 จุด (-0.38%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,913.97 จุด ลดลง 17.36 จุด (-0.44%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,865.36 จุด ลดลง 100.14 จุด (-0.72%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 13.58 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 265.50 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 111.81 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 ก.พ.)1,511.03 จุด ลดลง 3.88 จุด (-0.26%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,686.09 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (18 ก.พ.) ปิดที่ 60.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 62 เซนต์ หรือ 1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 ก.พ.) อยู่ที่ 2.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.01 แนวโน้มทรงตัว ตลาดรอดูตัวเลขศก.สหรัฐ ให้กรอบวันนี้ 29.95-30.05
  • ทอท.ปรับลดประมาณการจราจรทางอากาศ เซ่นโควิด คาดทั้งปีนี้ ดิ่ง 25% ผู้โดยสารหาย 33.4% โอกาสธุรกิจการบินคืนชีพ รอปี'67 บนพื้นฐานเปิดประเทศแบบไร้เงื่อนไข
  • ส.อ.ท. โควิดระลอกใหม่ฉุดดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯ ร่วงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เสนอรัฐคืนชีพ "ช้อปดีมีคืน" ใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มเป็น 5 หมื่นบาทในปีนี้ ด้านยอดผลิตรถยังเซ งวด ม.ค.64 ผลิตลด 5.21% ยอดขายฮวบ 21.3%
  • นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร หน่วยงานเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในการประสานความร่วมมือของ 3 องค์กร คือ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สถาบันอาหาร และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พบว่า ในปี 2563 ภาคการผลิตอุตสาหกรรมอาหารของไทยหดตัวลงร้อยละ 6.5 เป็นผลมาจากการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกที่ลดลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงจากปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ โดยเฉพาะในกลุ่มมันสำปะหลังอ้อย (น้ำตาล) และสับปะรด
  • นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือนม.ค.2564 ผลิตได้ 148,118 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกัน ของปีก่อน 5.21% เนื่องจากยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง 12.38% อยู่ที่ 62,321 คัน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KISS (บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ โดยราคาขาย IPO ที่ 9.00 บาท/หุ้น โดย KISS ประกอบธุรกิจพัฒนา จ้างผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามและสุขภาพทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการให้บริการคำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจและการตลาดสำหรับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทในต่างประเทศด้วย สินค้าของบริษัทอยู่ภายใต้ 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ 5 แบรนด์หลัก กว่า 200 SKUs ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว "Rojukiss" "PhDerma/PhD K-Derma" "Wonder Herb" and "Best Korea" 2) ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง "Sis2Sis" 3) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร "Rojukiss"
  • CHG (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 3 บาท คาดกำไร Q4/63 โตแรง yoy เพราะไม่มีการกลับรายการจากประกันสังคม มีรายได้จาก ASQ มากขึ้น ระยะสั้นยังมี Story เก็งกำไรจากภาครัฐเตรียมให้โรงพยาบาลเอกชนนำเข้าวัคซีนได้
  • BCP (คิงส์ฟอร์ด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 32 บาท กำไร Q4/63 อยู่ที่ 251 ล้านบาท พลิกเป็นบวกครั้งแรกหลังจากขาดทุนติดต่อกันมา 3 ไตรมาส ดีกว่าคาด EBITDA ทรงตัว QoQ แต่ดีขึ้น YoY หลัก ๆ จากกลุ่มธุรกิจ Biofuel และ E&A ขณะที่กลุ่มธุรกิจโรงกลั่น Market GRM ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ US$3.74/bbl จากต้นทุนน้ำมันดิบที่ลดลง อย่างไรก็ตามพบว่ามีขาดทุนสต๊อกเล็กน้อยแตกต่างจากโรงกลั่นรายอื่น แต่เป็นเพราะเป็นการบริหารจัดการ Inventory ก่อนเข้าช่วง Turnaround โรงกลั่น ซึ่งน่าจะเห็นพลิกเป็นกำไรสต๊อกบันทึกเข้ามามากใน Q1/64 แทน ส่วนกลุ่มธุรกิจการตลาดอ่อนตัวจากค่าการตลาด กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าอ่อนตัวตามปัจจัยฤดูกาล ทั้งนี้คาดแนวโน้มปี 64 ดีขึ้นต่อเนื่อง การหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นตามแผนใน Q1/64 ถ่วงผลประกอบการในระยะสั้น ขณะที่ความเสี่ยงจากผลขาดทุนสต๊อกเป็นจำนวนมากเหมือนปีก่อนจะลดลง ประกอบกับมองตลาดจะกลับมาให้ Premium มากขึ้นจากที่ก่อนหน้ามอง Discount เทียบโรงกลั่นอื่น เนื่องจาก BCP มีความชัดเจนในฐานะผู้ประกอบการ Green Energy เข้า Theme ESG ทำให้ Valuation ของ BCP มีโอกาสเข้าไปซื้อขายใกล้เคียงกับกลุ่มที่ 1 เท่า Book ได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ