(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นออสเตรเลีย: หุ้นเหมืองแร่พุ่งดัน S&P/ASX 200 ปิดบวก31.5จุด

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดสูงขึ้นในวันนี้ (25 ก.ย.) และทะยานทำสถิติใหม่ติดต่อกันเป็นวันที่สอง จากแรงซื้อหุ้นเหมืองแร่ชั้นนำอย่างหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และริโอ ทินโต ซึ่งราคาหุ้นทำนิวไฮเนื่องจากนักลงทุนมองว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะยังคงแข็งแกร่งนานกว่านี้
          ชาร์ลี เอทเคน หัวหน้าฝ่ายดีลลิ่งของเซาเทิร์น ครอส อิควิตี้ส์ กล่าวว่า ตลาดสามารถสรุปได้ว่าหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดคือ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่
          สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนี S&P/ASX 200 บวกขึ้น 31.5 จุด หรือ 0.5% ปิดที่ 6,483.0 จุด สูงกว่าระดับปิดที่สูงเป็นประวัติการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 6,451.5 จุด ปริมาณการซื้อขาย 1.91 พันล้านหุ้น มูลค่า 7.20 พันล้านดอลลาร์
          เอทเคนกล่าวต่อไปว่า นักลงทุนเทแรงซื้อไปที่หุ้นบลูชิปกลุ่มเหมืองแร่ และเชื่อว่าแนวโน้มเช่นนี้จะแสดงให้เห็นว่าหุ้นเหมืองแร่จะปรับตัวสูงขึ้นกว่านี้ โดยหุ้นเหล่านี้มีอัตราการขยายตัวของรายได้สูง พีอีต่ำ และการที่เฟดเพิ่งจะลดดอกเบี้ย หุ้นเหล่านี้จึงเป็นเหมือนเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ
          หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดบวก 1.46 ดอลลาร์ หรือ 3.4% แตะที่ 44.60 ดอลลาร์หลังจากแตะระดับสูงระหว่างวันที่ 45.09 ดอลลาร์ ส่วนหุ้นริโอ ทินโตพุ่ง 1.36 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 108.04 ดอลลาร์
          แอนดรูว์ พีส นักยุทธศาสตร์การลงทุนของรัสเซล อินเวสเมนท์ กรุ๊ป กล่าวว่า นักลงทุนได้ให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐ และมีมุมมองว่าเศรษฐกิจในประเทศอื่นๆยังคงมีความยืดหยุ่นในระดับที่เพียงพอ รวมถึงเศรษฐกิจจีนที่จะยังคงความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ในระดับที่แข็งแกร่ง
          มุมมองที่น่าสนใจในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาก็คือ ระดับความเชื่อมั่นของนักวิเคราะห์และนักลงทุนเกี่ยวกับความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจจีนที่มีต่อช่วงขาลงที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งถือได้ว่าเป็นมุมมองที่เปลี่ยนไปจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่นักลงทุนถกเถียงกันว่าจีนพึ่งพาการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมากน้อยแค่ไหน พีสกล่าว
          พีสกล่าวต่อไปว่า ขณะที่นักลงทุนลดระดับคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ นักลงทุนก็ได้ยกระดับคาดการณ์เศรษฐกิจญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งมุมมองเหล่านี้ถือได้ว่า โลกให้ความสนใจกับสหรัฐน้อยลง และแหล่งการขยายตัวทั่วโลกก็ได้กระจายไปตามส่วนต่างๆของโลกมากกว่าที่เคยเป็นมา