ยูโอบี ออกกองทุนเปิดชูลงทุนหุ้นโลกกลุ่มนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า 5-12 มี.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 3, 2021 16:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จับกระแสการลงทุนเมกะเทรนด์ (Megatrend) ที่มาแรงของโลก ล่าสุดเปิดตัวกองทุนเปิด ยูไนเต็ด แบตเตอรี่ แอนด์ อีวี เทคโนโลยี ฟันด์ (UEV) สร้างโอกาสได้เริ่มลงทุนในหุ้นทั่วโลกกลุ่มนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ (EV) ที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ (EV) อนาคต ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยกองทุน UEV เสนอขายครั้งแรก 5-12 มี.ค.64 นี้

กองทุนเปิด UEV มีโครงสร้างกองทุนประเภท Fund of funds ที่ลงทุนผ่านกองทุน RobecoSAM Smart Mobility Equities Fund (กองทุนหลัก) และกองทุน Global X Lithium & Battery Tech ETF (กองทุนหลัก) บริหารโดย Robeco และ Global X Management Company

โดยในส่วนกองทุนของ RobecoSAM Smart Mobility Equities Fund มีกลยุทธ์การบริหารกองทุนแบบ Active โดยทีมผู้เชี่ยวชาญบริหารการลงทุน เน้นลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลายเช่น ธุรกิจการขายชิ้นส่วนการผลิต EV ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ และเครื่องส่งกำลังไฟฟ้า (EV component suppliers) โรงงานผู้ผลิตรถยนต์ EV และระบบ software ในการติดตั้ง (EV car manufacturers & Subsystem suppliers) ระบบโครงข่ายไฟฟ้า เครื่องชาร์ตไฟและเทคโนโลยีการส่งไฟฟ้า (Electrical grid & Charging Infrastructure) AI การเชื่อมต่อและการขนส่งสาธารณะ (Vehicle connectivity & Autonomous driving) โดยกองทุน RobecoSAM Smart Mobility Equities Fund (กองทุนหลัก) สามารถสร้างผลการดำเนินงาน 1 ปี ย้อนหลังที่โดดเด่นถึง 51.2%* ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์อ้างอิง benchmark MSCI World Index TRN อยู่ที่ 44.8% (ที่มา Robeco, 30 ธ.ค. 2563)

นอกจากนี้กองทุน UEV จะกระจายไปลงทุนอีกส่วนหนึ่งไปยัง กองทุน Global X Lithium & Battery Tech ETF เป็นกองทุน ETF ที่ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวเนื่องและอยู่ในสายการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมเต็มรูปแบบ (The full lithium value chain) ตั้งแต่การขุดค้นและการกลั่นจนถึงการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม ซึ่งกองทุนสร้างผลการดำเนินงาน 1 ปี ย้อนหลัง อยู่ที่ 127.6% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์อ้างอิง ดัชนี Solactive Global Lithium Index ที่ 2.1% (ที่มา Global X, 30 ธ.ค. 2563)

นางสาวรัชดา กล่าว การผสมผสานการลงทุนทั้งแบบ Active จากการลงทุนในกองทุน RobecoSAM Smart Mobility Equities Fund และแบบ passive ในกองทุน Global X Lithium & Battery Tech ETF นั้น จะส่งผลให้นักลงทุนได้รับประโยชน์จากการกระจายการลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจธีม EVs และกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรม EV ผ่านการคัดเลือกบริษัทที่ลงทุนโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Robeco บนกระบวนการการลงทุนที่เข้มงวด

ในขณะเดียวกันกองทุน UEV ก็มีการกระจายการลงทุนที่เน้นลงทุนในกลุ่มธุรกิจแบตเตอรีลิเทียม (Lithium) ผ่าน Global X Lithium & Battery Tech ETF ที่เราเชื่อมั่นว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดดไปพร้อมกับกลุ่มธุรกิจ EV ดังนั้น บลจ. ยูโอบี จึงมีความมั่นใจแนะนำ กองทุน UEV แก่นักลงทุน เพื่อเสริมพอร์ตการลงทุนให้มีโอกาสเติบโตไปพร้อมกับกระแสยานยนต์ EV ในอนาคต ประกอบกับปัจจุบันเป็นช่วงที่ราคาของหุ้นกลุ่มธุรกิจ EV มีการปรับตัวย่อลงมาบ้างในช่วงที่ผ่านมาจากสถานการณ์โควิด-19 เราจึงมองว่าเป็นจังหวะที่น่าสนใจในการเข้าลงทุน เพื่อโอกาสได้รับผลตอบแทนที่แข็งแกร่งในระยะยาว

นางสาวรัชดา กล่าวอีกว่า การเปลี่ยนแปลง จากรถยนต์ใช้น้ำมันสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้า เป็นความก้าวหน้าและพัฒนาการของเทคโนโลยีในหลายด้าน ซึ่งทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีจุดเด่นหลายอย่างที่เหนือกว่ารถยนต์ในปัจจุบันอย่างมาก รวมถึงการตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่นับวันยิ่งมีปัญหารุนแรงมากขึ้น เกี่ยวกับมลพิษและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลต่างๆทั่วโลกที่ส่งเสริมและรณรงค์ให้คำนึงถึงการจำกัดและลดปริมาณการปล่อยสารพิษที่ส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จะเห็นได้ว่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก (EV) ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง โดยตลาด EV ทั่วโลกคาดว่าจะมีสัดส่วนประมาณ 30-40% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดในปี 2573 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนเพียง 2.5% ในปี 2562

ปัจจุบันเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เติบโตและเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายอย่างมากทั้งประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ ยุโรปสหรัฐอเมริกาญี่ปุ่น รวมถึงจีนและเกาหลีใต้ นอกจากนี้ห่วงโซ่อุปทานของรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตแบตเตอรี่ กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดเช่นกัน ธุรกิจที่ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม (Lithium) ได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของตลาดรถยนต์ EV โดยตลาดแบตเตอรี่ลิเทียมยังเป็นวัตถุดิบหลักที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 24% ต่อปี ช่วงสิบปีข้างหน้า (ปี 2573) รวมทั้งส่วนประกอบของรถยนต์ไฟฟ้าและระบบส่งกำลังไฟฟ้าที่รวมถึงมอเตอร์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

ปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ รัฐบาลของประเทศต่างๆทั่วโลก ได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบหรือกฎหมายที่เริ่มบังคับให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดการปล่อยมลพิษ (Zero Emission Vehicle) ให้เข้มงวดขึ้น และรณรงค์การใช้พลังงานสะอาดกันอย่างจริงจัง โดยล่าสุดนโยบาย "Buy America" ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่มีแผนการจะเปลี่ยนรถของรัฐบาลกลางมากกว่า 600,000 คัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในสหรัฐ ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ภาคเอกชนเตรียมการลงทุนในสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและการผลิตแบตเตอรี่ รวมไปถึงการอัพเกรดการผลิตไฟฟ้าและระบบการส่งไฟฟ้าทั่วประเทศ ตลอดจนการเพิ่มจำนวนเครือข่ายระบบชาร์จไฟฟ้า เพื่อรองรับความต้องการที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต

"การตื่นตัวและแรงผลักดันเหล่านี้มีส่วนสำคัญที่ส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามีการเติบโตและมีแนวโน้มที่จะเข้ามาแทนที่รถยนต์ระบบเดิมในอนาคต บลจ. ยูโอบี จึงร่วมคว้าโอกาสทางการลงทุนในนวัตกรรมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ด้วยการเปิดตัวกองทุนเปิด UEV เพื่อนักลงทุน และถือว่าเราเป็นหนึ่งในผู้นำที่ออกกองทุนในธีม EV ในประเทศไทยอีกด้วย"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ