AOT ระบุแก้ปัญหาผลกระทบเสียงยื้อเยื้อจากมติครม.2 ครั้งขัดแย้งกัน

          บมจ.ท่าอากาศยานไทย(ทอท.หรือ AOT) จะเปิดการเจรจากับตัวแทนกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเสียงรอบสนามบินสุวรรณภูมิในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากมีการเคลื่อนไหวประท้วงเรียกร้องในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  ระบุว่าปัญหาการเจรจาที่ไม่คืบหน้าในช่วงทีผ่านมา เป็นเพราะมติครม.2 ครั้งที่กำหนดแนวทางแก้ปัญหามีความขัดแย้งกัน
          นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบุว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการให้ทอท.ยึดมติครม.วันที่ 21 พ.ย.49 แต่ ทอท.ต้องทำตามมติครม.29 พ.ค.50 ซึ่งเป็นมติครม.ล่าสุด ซึ่งทั้ง 2 ฉบับแตกต่างกัน ดังนั้นการเข้าไปเยียวยาปัญหาก็ต่างกัน ทำให้เกิดปัญหาลุกลามจนเป็นเหตุให้ชาวบ้านชุมนุมประท้วง 
          "เราก็ยอมรับว่าสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยเสียงเครื่องบินก็ทนไม่ได้จริงๆ แต่ผมในฐานะผู้ปฏิบัติเราก็ต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี โดยหลักก็ใช้มติครม.ล่าสุด (เมื่อ 29 พ.ค.50) แต่ประชาชนไม่ยอม จะให้ใช้มติครม.ของวันที่ 21 พ.ย. 49 จึงต้องส่งให้ครม.ตัดสินอีกครั้งแต่สำหรับเราก็ต้องเดินตาม 29 พ.ค.ไปก่อน และรวบรวมข้อมูลไปก่อน" นายเสรีรัตน์กล่าว 
          สำหรับมติครม.เมื่อ 29 พ.ค.50 ระบุว่ากรมควบคุมมลพิษได้กำหนดแนวเส้นเสียง พบว่า มีบ้านกว่า 100 หลักคาเรือนที่อยู่ในภาวะเสียงทีเกิน 40 หน่วย และที่ระหว่าง 30-40 หน่วย ประชาชนอยู่อาศัยได้แต่ต้องไปปรับปรุง ขณะที่มติครม.เมื่อ 21 พ.ย.49 พบว่ามีบ้านพักที่ได้รับผลกระทบอยู่ประมาณ 2 หมื่นหลังคาเรือนที่ทอท.ต้องซื้อคืนหรือปรับปรุงตามแนวเส้นเสียง 
          ทั้งนี้ ทอท.จะเน้นที่แนวเส้นเสียงที่ได้รับผลกระทบมากก่อน และจะมีหลักประเมินราคาบ้าน โดยจะมีบริษัทประเมินที่ตลาดหลักทรัพย์รับรอง และจะมีการร่างทีโออาร์ ร่วมกันระหว่ากรมธนารักษ์ ตัวแทนประชาชน ตัวแทนของทอท. ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่บริษัทมาประเมิน 
          นายเสรีรัตน์ กล่าววว่า ชาวบ้านที่มาชุมนุมเมื่อวานนี้ มีส่วนหนึ่งไม่ว่าจะใช้มติครม.ไหนก็จะได้รับผลกระทบแน่ๆ และเข้าหลักเกณฑ์ส่วนนี้ก็จะยอมก็จะดำเนินการไป ส่วนชาวบ้านส่วนที่ยึดมติครม. 21 พ.ย.49 ก็แยกส่วนมาดำเนินการแก้ปัญหาต่อไป