SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,568.19 จุด ลดลง 6.94 จุด (-0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 84,023.49 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดย่อตัวลงจากผิดหวังการเลื่อนฉีดวัคซีคโควิด-19 ของนายกรัฐมนตรี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) เริ่มดีดตัวขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรออกมาหลังจากตลาดปรับตัวขึ้นไปใกล้ 1,600 จุด และหุ้น Theme เปิดเมืองปรับตัวขึ้นค่อนข้างมากแล้ว แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดแกว่ง Sideway ขาลง พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด แนวต้าน 1,600 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,568.19 จุด ลดลง 6.94 จุด (-0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 84,023.49 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกช่วงต้นภาคเช้าหลังจากนั้นไหลลงมาแกว่งตัวในแดนแลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,584.40 จุด และระดับต่ำสุด 1,562.90 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 560 หลักทรัพย์ ลดลง 1,088 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 400 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ย่อตัวลงมาจากการเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเช้าวันนี้ และจากการที่ดัชนีปรับชึ้นไปมากใกล้ระดับ 1,600 จุด ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา สวนทางกับตลาดภูมิภาคเอเชีย แต่ตลาดยุโปรเปิดบ่ายก็ปรับตัวลงเช่นกัน
ปัจจัยหลักมาจากตลาดผิดหวังการเลื่อนฉีดวัคซีน ซึ่งก่อนหน้ามีหุ้นหลายตัวเก็งกำไรประเด็นเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เร็ว ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาหลังปรับขึ้นไปค่อนข้างมาก ขณะที่ประเด็นการเมืองยังต้องติดตามกันต่อไป ประกอบกับ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) เริ่มดีดตัวขึ้น
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าคาดแกว่งตัว Sideway ทิศทางขาลง แต่คงยังไม่หลุด 1,560 จุด โดยต้องติดตามต่อไปว่ากระทรวงสาธารณสุขจะประกาศให้กลับมฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าได้เมื่อไร และปลายสัปดาห์หน้าศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)จะพิจารณาการการเปิดเมืองมากขึ้น รวมทั้งมีการประชุมคณะนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้ โดยธนาคารกลางในหลายประเทศยังไม่มีสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเชื่อว่าเฟดก็คงไม่รีบปรับขึ้นเช่นกัน แต่นักลงทุนจับตาว่าเฟดจะส่งสัญญาณต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยอย่างไร
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,530 จุด แนวต้านให้ไว้ที่ 1,600 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,725.31 ล้านบาท ปิดที่ 344.00 บาท ลดลง 26.00 บาท
OR มูลค่าการซื้อขาย 2,692.36 ล้านบาท ปิดที่ 30.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,672.28 ล้านบาท ปิดที่ 76.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,635.35 ล้านบาท ปิดที่ 41.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,375.31 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง 3.50 บาท