(เพิ่มเติม) CENTEL เผยเหตุ"วันทูโก"กระทบระยะสั้น-ยอดจองโรงแรมที่ภูเก็ต Q4 เต็มแล้ว

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 17, 2007 14:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา(CENTEL) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า อุบัติเหตุกรณีเครื่องบินวันทูโก ลื่นไถลออกนอกรันเวย์สนามบินภูเก็ตเมื่อวานนี้ เชื่อว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเป็นแค่ระยะสั้นต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว แต่เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะสามารถคลี่คลายได้ในทางที่ดี 
ในส่วนของ CENTEL มียอดจองล่วงห้องพักล่วงหน้าในเดือนพ.ย.-ธ.ค.เต็มแล้ว ซึ่งตรงกับช่วง high season
นายรณชิต กล่าวว่า จากการประเมินโดยโทรศัพท์ไปสอบถามที่โรงแรมที่ภูเก็ต ขณะนี้ยังไม่มีลูกค้าแจ้งยกเลิกการเข้าพักที่โรงแรม ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มีกำหนดเดินทางไปช่วงนี้ก็จะไปลงที่กระบี่และสนามบินที่กระบี่ก็จะมีรถมาส่งที่ภูเก็ต และใน 1-2 สัปดาห์นี้จะประเมินอีกครั้งถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งจากการผ่านเอเย่นต์หรือลูกค้าที่จองเข้ามา
ปัจจุบัน CENTEL มีโรงแรมที่ภูเก็ต 3 แห่งคือ Centara Karon Beach Resort, Centara Villas Phuket, Centara Kata Resort และมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ที่ภูเก็ตอีก 1 โครงการมูลค่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวและมีอัตราการเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี
นายรณชิต กล่าวว่า สำหรับโครงการใหม่ที่ภูเก็ตคาดว่าจะเปิดได้ปี 2010 โดยจะเริ่มก่อสร้างในปลายปีนี้ และยังมีที่พัทยาซึ่งจะเปิดในปี 2009 มูลค่า 3-4 พันล้านบาท และส่วนที่เหลือก็จะเป็นการรับจ้างบริหาร
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังผลการดำเนินงานจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากช่วงไตรมาส 3-4 เป็นช่วง high season โดยไตรมาส 3 มีจำนวนผู้เข้าพักมากกว่าไตรมาส 2 ซึ่งทำให้คาดว่าอัตราการเติบโตของรายได้ในไตรมาส 3 จะมากกว่าไตรมาส 2 ประมาณ 10-15% จากไตรมาส 2ที่มีรายได้ 1.6 พันล้านบาท และในช่วงไตรมาส 4 ก็คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3
ขณะเดียวกันจำนวนผู้ที่มาพักในกรุงเทพฯ ก็เพิ่มสูงขึ้นซึ่งก็จะส่งผลดีต่อโรงแรมที่ลาดพร้าว จากการที่นักท่องเที่ยวหนีหนาวมาเที่ยว ดังนั้น เชื่อว่าเป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 10% ในปีนี้น่าจะทำได้
"ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขที่ลดลงจากเป้าหมายรายได้เดิมที่บริษัทตั้งไว้ในช่วงต้นปีที่จะเติบโต 15% เนื่องจากในไตรมาส 2 บริษัทได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจทำให้คนชะลอไม่กล้าเข้ามาพัก" นายรณชิต กล่าว
ในส่วนของธุรกิจอาหารเชื่อว่าในครึ่งปีหลังจะกลับมาฟื้นตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและการเมืองแต่เมื่อมีการเลือกตั้งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนให้กลับมาซึ่งก็จะสอดคล้องกับการที่บริษัทจะเปิดแบรนด์อาหารใหม่ในช่วงไตรมาส 4

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ