ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,595.12 จุด เพิ่มขึ้น 7.91 จุด (+0.50%) มูลค่าการซื้อขาย 76,941.15 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,600.60 จุด และระดับต่ำสุด 1,590.33 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 784 หลักทรัพย์ ลดลง 798 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 465 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่ง Sideway up เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียต่างแกว่งบวก เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้บวกราว 0.5% ตลาดทั่วโลกเคลื่อนไหวคล้าย ๆ กัน บนความคาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจ หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐเปิดเผยรายละเอียดแผนลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ครอบคลุมการใช้จ่าย 2 เฟสในระยะเวลา 8 ปี แต่ก็มีแรงถ่วงจากความกังวลว่าสหรัฐฯอาจปรับขึ้นภาษีนิติบุคคล อย่างไรก็ดี ปัจจัยหนุนตลาดมาจากภาพเศรษฐกิจค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น
อย่างไรก็ดี วันนี้ให้จับตาผลประชุมกลุ่มโอเปกพลัส ซึ่งตลาดคาดว่าจะคงกำลังการผลิตน้ำมัน จาก Demand ยังไม่แข็งแกร่งอันเป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 กดดัน นอกจากนี้ให้ติดตาม PMI ภาคการผลิตที่หลายประเทศจะทยอยประกาศออกมา และพรุ่งนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯยังมีลุ้นขึ้นทดสอบ 1,600 จุดได้ และหากผ่านได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,610 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,585 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,613.30 ล้านบาท ปิดที่ 324.00 บาท เพิ่มขึ้น 34.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,040.72 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 2,673.40 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,140.77 ล้านบาท ปิดที่ 40.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,073.60 ล้านบาท ปิดที่ 128.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท