ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์พุ่ง 119.01 จุด ขานรับแถลงเบอร์นานเก้-บุช

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday September 1, 2007 07:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) หลังจากที่นักลงทุนได้ขานรับกับการแถลงของนายเบน เบอร์นานเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด และประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรั.ญ เนื่องจากการแถลงดังกล่าวเปรียบเสมือนสัญญาณตอกย้ำว่าเฟดและรัฐบาลสหรัฐจะไม่ปล่อยให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กต้องรับมือกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อและการปล่อยกู้เพื่อจำนองเพียงลำพัง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 119.01 จุด หรือ 0.90% ปิดที่ 13,357.74 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวกขึ้น 16.35 จุด หรือ 1.12% ปิดที่ 1,473.99 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 31.06 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 2,596.36 จุด
นายเบน เบอร์นานเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด กล่าวปราศรัยที่แจ็คสัน โฮล ไวโอมิ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เฟดจะดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหาความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดเงินอันเนื่องมาจากตลาดซับไพรม์
"ธนาคารกลางสหรัฐพร้อมที่จะดำเนินการใดๆเพิ่มเติมหากพิจารณาแล้วว่ามีความจำเป็น เพื่อเสริมสภาพคล่องและส่งเสริมให้ตลาดเคลื่อนตัวไปอย่างมีระเบียบ สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในตลาดเงินสามารถรู้สึกถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจได้ในวงนอก การกำหนดนโยบายของเฟดจะต้องนำประเด็นเรื่องผลกระทบเหล่านี้มาพิจารณา" เบอร์นานเก้กล่าว
ดัชนีหลักๆเคลื่อนตัวผันผวน แต่ก็ยังปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีบุชเปิดเผยถึงรายละเอียดของแผนการช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่ประสบปัญหาในการชำระหนี้เพื่อการจำนอง
ไมเคิล เชิร์ช ผู้จัดการเชิร์ช แคปิตอล เมเนจเมนท์ กล่าวว่า การแถลงดังกล่าวเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาด สิ่งที่เราเห็นว่าเกิดขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาคือ การที่เฟดและประธานเฟดให้ความสนใจกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ เฟดจะช่วยแก้ปัญหาในตลาดสินเชื่อ ขณะนี้ ตลาดกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆและกำลังหาทางฟันฝ่าความปั่นป่วนที่เกิดขึ้น
เชิร์ชกล่าวต่อไปว่า ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รวมทั้งตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด โดยข้อมูลที่ได้มีการเปิดเผยออกมานี้เป็นการอธิบายสถานการณ์ในปัจจุบันได้ดีมาก และข่าวเรื่องการใช้จ่ายของผู้บริโภคดังกล่าวก็เป็นเรื่องที่ดี
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า รายได้ส่วนบุคคลและการใช้จ่ายของผู้บริโภคนั้นปรับตัวสูงขึ้น 0.5% และ 0.3% ตามลำดับ ซึ่งเป็นระดับที่สอดคล้องกับเป้าหมายของเฟด
ทอม ฮิกกิ้นส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเพย์เดน แอนด์ ไรเจล อินเวสเมนท์ เมเนจเมนท์ กล่าวว่า แม้ว่าข้อมูลทางเศรษฐกิจจะออกมาค่อนข้างจะสดใส ขณะนี้ก็เริ่มมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าเฟดกำลังจะต้องลดดอกเบี้ย เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตในตลาดสินเชื่อฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ