LPN ออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 3.95% เปิดขาย 10-12 พ.ค.64 ใช้ซื้อที่ดิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 19, 2021 11:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ เกษมกุลศิริ เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงด้านการเงิน บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) เปิดเผยว่า LPN เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ให้กับผู้ลงทุนทั่วไป อายุหุ้นกู้ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.95% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุก 100,000 บาท เสนอขายวันที่ 10-12 พ.ค.64 วัตถุประสงค์ในการนำเงินได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ไปซื้อที่ดิน เพื่อใช้ขยายกิจการ และรองรับเป้ารายได้ และการเติบโตในอนาคตตามแผนธุรกิจปี 64-67

สำหรับสถาบันการเงินซึ่งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขาย) บริษัทหลักทรัพย์กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด

ทั้งบริษัทและหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากบริษัท ทริสเรทติ้ง ที่ระดับ ?BBB+? แนวโน้ม ?คงที่? ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่า LPN จะสามารถรักษาผลการดำเนินงานไว้ได้ตามที่คาดการณ์ และบริษัทจะสามารถส่งมอบยอดขายที่รอการรับรู้รายได้ได้ตามแผนแม้ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด ตอกย้ำความมั่นใจในความเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ LPN รวมถึงการมีแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับในกลุ่มที่อยู่อาศัยทั้งอาคารชุดพักอาศัย และบ้านพักอาศัย

LPN ได้วางยุทธศาสตร์ปี 64-67 เป็นปีแห่งการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งการเติบโตของรายได้ กำไร การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ พร้อมกับการพัฒนาคุณภาพของที่อยู่อาศัยและการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ โดยมีเป้าหมายรายได้ไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้านบาทในปี 67 ซึ่งในปี 64 บริษัทมีแผนเปิดตัวบ้านพักอาศัย 6 โครงการ มูลค่าประมาณ 5,500 ล้านบาท และเปิดตัวโครงการอาคารชุดพักอาศัย 2-3 โครงการ มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยของบริษัทไม่น่าจะต่ำกว่า 30% ในช่วงปี 64-66 รวมถึงคาดว่ากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทน่าจะอยู่ในระดับ 1,000-1,500 ล้านบาทต่อปีในช่วง 64-66 อีกด้วย โดยทริสเรทติ้งประมาณการว่า บริษัทจะยังคงรักษาอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ให้สูงเกินกว่าระดับ 15% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ในช่วง 8%-10% ได้ตลอดระยะเวลาประมาณการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ