HILITE: PROEN ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 8.90 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 173.85%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 29, 2021 12:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น PROEN ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 8.90 บาท เพิ่มขึ้น 5.65 บาท (+173.85%) จากราคาขาย IPO ที่ 3.25 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 3,853.26 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 9.75 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 9.75 บาท และราคาลงต่ำสุด 6.50 บาท

นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของบมจ.โปรเอ็น คอร์ป (PROEN) กล่าวว่า การเข้าซื้อขายนตลาดหลักรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรกของ PROEN ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างมาก จากความเชื่อมั่นในศักภาพของ PROEN ที่ได้ประโยชน์จากการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์ช และเกมส์ออนไลน์ ทำให้มีความต้องการใช้บริการดาต้าเซ็นเตอร์และระบบคลาวด์เป็นจำนวนมาก อีกทั้งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่หลักหมื่นล้านบาท ทำให้บริษัทยังมีโอกาสได้ลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ

"ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ทิศทางความต้องการใช้ดาต้าเซ็นเตอร์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทมีลูกค้าหลักอยู่ในกลุ่มอีคอมเมิร์ชและเกมส์ออนไลน์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และในปัจจุบันทุกอุตสาหกรรมก็ได้ปรับตัวมาสู่ด้านไอซีทีและเทคโนโลยี ทำให้บริษัทได้รับอานิสงส์บวกไปด้วย"นางยอดฤดี กล่าว

โดยมองว่า PROEN จะเป็น Growth Stock ในระยะสั้น จากการที่ได้ปัจจัยจากการปรับตัวของอุตสาหกรรมต่างๆหันมาใช้บริการไอซีทีและเทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้การปรับตัวขึ้นของผลการดำเนินงานจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และจะสะท้อนไปที่ราคาหุ้นของ PROEN ที่ปรับตัวขึ้นได้มาก จากที่เห็นในวันนี้ที่ราคาหุ้นได้ปรับขึ้นมาแตะที่ระดับเพดาน (Celling) ในวันซื้อขายวันแรก และในระยะยาวยังมั่นใจว่า PROEN จะให้ตอบแทนกับนักลงทุนที่ดีต่อเนื่อง หลังจากที่เขาตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ แล้ส ทำให้บริษัทมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น มีศักยภาพในการแข่งขัน และมีฐานทุนที่แข็งแรง พร้อมเติบโตได้ในอนาคต ด้านนายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PROEN กล่าวว่า บริษัทยังมีความมั่นใจในการสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่รายได้ในปี 64 มั่นใจว่าจะเติบโตขึ้นสูงกว่าปีก่อนที่ 1 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) เข้ามา 334 ล้านบาท และยังมีงานอื่นๆ ที่จะเข้ามเสริมในระยะต่อไป

บริษัทยังอยู่ระหว่างการติดตามโครงการเดินสายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หลายโครงการ ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลออกมาเป็นโครงการขนาดใหญ่ มูลค่าโครงการราว 100 ล้านบาท คาดหวังที่จะได้รับงานอย่างน้อย 1-2 โครงการ และโครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน โครงการนำสายสื่อสารลงดิน ที่เริ่มมีโครงการต่างๆออกมาเพิ่มเติม ซึ่งบริษัทตั้งใจที่เดินหน้าคว้างานมา เพื่อสร้างรายได้รองรับการเติบโตในอนาคต

นอกจากนี้ ในกลุ่มของลูกค้าภาคเอกชนยังมีความต้องการใช้บริการดาต้าเซ็นเตอร์และระบบคลาวด์มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ชและให้บริการเกมส์ออนไลน์ ที่มีการเติบโตของฐานลูกค้าที่สูง ทำให้มีความต้องการใช้บริการดังกล่าวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยที่มองว่ากลุ่มลูกค้าดังกล่าวจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้สัดส่วนรายได้ที่เป็นรายได้ประจำเข้ามาให้กับบริษัทเพิ่มสูงขึ้นกว่าปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้ 30% และเป็นเป้าหมายหนึ่งที่บริษัทจะมุ่งไปเพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่องของรายได้ และสัดส่วนลูกค้าของบริษัทยังคงเป็นภาคเอกชนมากที่สุด 80% และอีก 20% มาจากลูกค้าภาครัฐ

ขณะที่เงินที่ได้จาก IPO ในสัดส่วนกว่า 50% จะนำไปใช้ในการก่อสร้างอาคารศูนย์ข้อมูล สำนักงานแห่งใหม่ พื้นที่อาคารรวม 7,452 ตารางเมตร โดยเป็นการลงทุนหลักใน Data Center พื้นที่ 3,000 ตารางเมตร สามารถรองรับตู้ Server ได้ 1,000 ตู้ จากปัจจุบันมีตู้ให้บริการประมาณ 645 ตู้ ซึ่งจะทยอยลงทุนและแล้วเสร็จในปี 65 พร้อมกันนี้ยังมีแผนนำเงินไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในธุรกิจการให้บริการ ICT และงานรับเหมาฯ รวมถึงการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมสถาบันการเงิน ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงต่ำกว่า 2 เท่า

ด้านโอกาสในการขยายการลงทุนไปในต่างประเทศบริษัทยังมีการศึกษามาต่อเนื่อง ซึ่งยังคงต้องใช้เวลาและการประเมินความเสี่ยงที่แน่นอน จากปัจจุบันแม้ว่าธุรกิจของบริษัทได้รับประโยชน์จากกระแสด้านเทคโนโลยีที่มาแรง แต่การลงทุนยังมีความเสี่ยงในเรื่องความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่อาจจะมีผลกระทบ ทำให้บริษัทจะต้องประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ แต่มีความพร้อมที่จะขยายการลงทุนไป ซึ่งเน้นไปในอาเซียนที่ใกล้เคียงประเทศไทย

สำหรับราคาเปิดการซื้อขายวันแรกของหุ้น PROEN ที่พุ่ง Celling ถือว่าเกินความคาดหมายกว่าที่บริษัทคาดคิดไว้ ซึ่งมาจากความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทจากนักลงทุนที่สนับสนุนให้ราคามีการปรับตัวขึ้น บริษัทมั่นใจว่าจะเป็นทั้ง Growth Stock และ Dividend Stock ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีและคุ้มค่าให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ