SRICHA มั่นใจปีนี้ผลงานดีต่อเนื่องหลังตุน Backlog 2.1 พันลบ.รอประมูลอีก 5.5 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 14, 2021 15:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสุดจินดา เศรษฐกูลวิชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ศรีราชาคอนสตรัคชั่น (SRICHA) เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจว่านับจากนี้ผลประกอบการบริษัทฯมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากล่าสุดมีมูลค่างานในมือ (backlog) ราว 2,100 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 65

ทั้งนี้ บริษัทได้เซ็นสัญญารับงานโครงการก่อสร้างโรงงานหลายโครงการที่ให้ผลตอบแทนที่ดี อาทิ โครงการใหม่ PEXCELL จากบริษัท DYNATEC MADAGASCAR มูลค่างานเพิ่มเป็นกว่า 550 ล้านบาท ซึ่งเป็น 1 ในลูกค้าหลักที่บริษัทฯรับงาน maintenance ติดต่อกันมากว่า 8 ปี, โครงการ Project T3 ซึ่งเป็นงานก่อสร้างโรงงานปิโตรเคมีในประเทศ และโครงการ HARMONY ซึ่งเป็นโรงงานปิโตรเคมี ในประเทศเช่นกัน นอกจากนี้บริษัทฯยังได้รับงานเพิ่มจากโครงการนั้นๆ

ล่าสุด บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญารับงานโครงการใหม่เพิ่มเติมคือ โครงการของ บมจ.ไทยออยล์ จากกิจการร่วมค้า Petrofac-Samsung-Saipem มูลค่างานเริ่มต้น 828 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทย่อย คือ บริษัท เอสซีซี เมนเทนแนนซ์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด ได้รับงานเพิ่มจากโครงการ Project T3 ด้าน Fabrication and erection of structural steel and painting work of piping and steel structure และงาน Fire Water and metal sheet ทำให้มูลค่างานโครงการเพิ่มเป็น 1,518 ล้านบาท จากมูลค่างานเริ่มต้น 1,090 ล้านบาท

บริษัทยังอยู่ในช่วงการเตรียมการประมูลและ/หรือเจรจางานที่จะเริ่มในปีหน้าอีก 6 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 5,500 ล้านบาท ซึ่ง 1 ใน 6 โครงการนี้มูลค่า 1,500 บาท บริษัทมีความมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในการประมูล เพื่อสร้างรายได้ในปีต่อๆไปรองรับการกลับมาเติบโตอีกครั้ง คาดว่าจะเป็นการเริ่มต้นรอบใหม่ของการลงทุนก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย SRICHA ได้เตรียมความพร้อมด้านบุคคลากร และอุปกรณ์เครื่องจักรรองรับการขยายงานไว้ล่วงหน้าแล้ว"

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/64 เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้จากการรับเหมาและให้บริการรวม 732.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 143% เมื่อเทียบในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 115.60 ล้านบาท เติบโต 669% จากกำไรสุทธิ 15 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากการเริ่มฟื้นตัวของการลงทุนในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ด้านพลังงาน ปิโตรเคมี และเคมีภัณฑ์ที่ดีขึ้น และ ที่สำคัญบริษัทฯเน้นการเลือกรับงานโครงการที่มีอัตราผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้น และมีความเสี่ยงน้อย มากกว่าที่จะรับงานโครงการขนาดใหญ่ ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าและผลตอบแทนต่ำกว่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ