MK เล็งเปิด 3 โครงการใหม่ราว 2.34 พันลบ.รองรับคาดการณ์ศก.ฟื้นใน Q3/64

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 18, 2021 09:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) เปิดเผยว่า จากภาพรวมธุรกิจตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาค่อนข้างได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกใหม่ มองว่าถ้าสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้ 50% ของจำนวนประชากรทั้งหมด จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมค่อยๆ กลับคืนมาอีกครั้งในช่วงไตรมาส 3/64

ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมความพร้อมทุกช่องทาง และยังคงเดินหน้าดำเนินงานตามแผนที่ได้วางเอาไว้ โดยเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,347 ล้านบาท และขยายธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า "โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน" เพิ่มอีก 2 แห่ง จำนวน 120,000 ตารางเมตร

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/64 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้นจำนวน 571.53 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 448 ล้านบาท ลดลง 48.92 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 63 ที่มีจำนวน 496.92 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19, ธุรกิจเพื่อเช่าและการบริการ (Recurring Income) จำนวน 74.44 ล้านบาท เป็นรายได้จากโครงการ "บางกอกฟรีเทรดโซน" (Bangkok Free Trade Zone : BFTZ) 57.44 ล้านบาท โดยมีอัตราการเช่า (Occupancy rate) สูงถึง 93%

ส่วนรายได้จากธุรกิจสนามกอล์ฟ และธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 44.61 ล้านบาท ยังคงสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์ ที่มียอดรับรู้รายได้ จำนวน 16.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80.69% โดยรายได้ ที่เพิ่มขึ้นมาจากการบริหารทรัพย์สินในกองทรัสต์ของ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และรายได้จากการจัดการกองทุนทรัสต์ของ บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขั้นต้นของธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 6.27 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 179.93% และนับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของกลุ่มบริษัทที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

ด้านธุรกิจเพื่อสุขภาพโครงการรักษา (RAKxa) ที่ได้เปิดให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนธ.ค.63 บริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์เชิงรุก สร้างการรับรู้เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าภายในประเทศมากยิ่งขึ้น และเน้นขาย Membership โดยปัจจุบันมีค่าสมาชิกมากกว่า 50 ล้านบาท

ทั้งนี้จากแผนธุรกิจ 5 ปีที่มุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนกำไรในกลุ่มธุรกิจเพื่อเช่าและเพื่อการบริการ (Recurring Income) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยลบของสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ประกอบกับกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ ยังมีการจัดการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ