นายโรเบิร์ต เพนนาโลซา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.อเบอร์ดีน กล่าวว่า มูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร(AUM) ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงเชื่อว่า AUM ทั้งปีนี้จะมากกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ 31,989 ล้านบาท และสูงกว่าเป้าหมายด้วย
เนื่องจากบริษัทมีการบริหารกองทุนในลักษณะกระจายการลงทุน โดยเฉพาะกองทุนที่ลงทุนต่างประเทศ (FIF) ที่ถือว่ามีการเติบโตสูงที่สุด โดยในช่วง 8 เดือนแรกมีมูลค่า AUM 8,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 3,081 ล้านบาท รองลงมาเป็นกองทุนส่วนบุคคล 6,466 ล้านบาท จากที่ปีก่อนอยู่ที่ 1,773 ล้านบาท กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 12,280 ล้านบาท จาก 10,597 ล้านบาทในปีก่อน
"มูลค่า AUM เกิดจาก FIF ส่วนใหญ่ ทำให้บริษัทยังให้น้ำหนักการลงทุนใน FIF อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ FIF ในยุโรป" นายโรเบิร์ต กล่าว
นายทอม ฮูเปอร์ ผู้จัดการกการลงทุน บลจ.อเบอร์ดีน (ประเทศอังกฤษ) กล่าวว่า ขณะนี้ยุโรปยังถือว่ามีแนวโน้มการขยายตัวที่ดี และให้ผลตอบแทนที่สูง เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจของยุโรปยังแข็งแกร่ง รวมถึงบริษัทจดทะเบียนยังมีกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากการส่งออกที่ยังสูงอยู่ ถึงแม้ค่าเงินในประเทศจะแข็งค่า แต่ไม่มีผลจนเกิดความกังวล และที่ผ่านมาหากเทียบกับสหรัฐ ความสนใจของประเทศที่เกิดใหม่ หรือกลุ่มประเทศในยุโรปยังน่าสนใจลงทุน หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐชะลอ และการขยายตัวของ EU ก็ไม่ได้ขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐ
ในส่วนของกองทุนในยุโรป โกลบอล ยูโรเปี้ยน อิควิตี้ ฟันด์ สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในอัตราที่สูง โดย 1 ปี ให้ผลตอบแทนที่ 15.25%, 2 ปี 40.38%, 3 ปี 70.08% ซึ่งนายทอม กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมาการบริหารพอร์ตของบลจ.อเบอร์ดีน ยังได้มีการเข้าไปเยี่ยมชมบริษัทในยุโรปจำนวน 600 กว่าแห่ง
"ที่ผ่านมาเราได้ไปเยี่ยมชมบริษัทในยุโรปกว่า 600 บริษัท ซึ่งก็เห็นว่าบริษัทเหล่านั้นมีพื้นฐานที่ดี และบริษัทก็จะพิจารณาลงทุน ซึ่งตอนนี้ยุโรปไม่เหมือนแต่ก่อนที่จะ slow down ตามสหรัฐ แต่การลงทุนของเราจะเน้นลงทุนระยะยาว เพื่อสร้างผลตอบแทน" นายทอม กล่าว
น.ส. รัตนวรรณ แสงกิติโกมล ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนตราสารทุน บลจ.อเบอร์ดีน กล่าวว่า บริษัทยังให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย Overweight ช่วง 3-5 ปีนี้ เนื่องจากราคาหุ้นยังอยู่ในอัตราที่ต่ำ ถูกกว่า 15-20% เมื่อเทียบกับภูมิภาค อีกทั้งยังได้ผลตอบแทนที่สูง
สำหรับสถานการณ์ในระยะสั้น เชื่อว่าคนยังติดตามประเด็นการเลือกตั้งที่ยังคงมีผลต่อความมั่นใจทางการลงทุนของนักลงทุน หากการเลือกตั้งเป็นไปตามที่ประเมินไว้ที่จะมีปลายเดือนธ.ค.ก็จะทำให้บรรยากาศการลงทุนกลับมาได้ เพราะจะเห็นถึงการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งจะเป็นตัวในการกระตุ้นให้เห็นการเติบโตของเศรษฐกิจ
น.ส.รัตนวรรณ กล่าวว่า ในการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)วันพรุ่งนี้ เชื่อว่ายังคงไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากขณะนี้เงินเฟ้อปรับตัวตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์:
[email protected]