ดัชนีคอมโพสิต ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดขยับขึ้นท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวนในวันนี้ (9 ต.ค.) โดยนักลงทุนส่งแรงซื้อเข้าหนุนหุ้นกลุ่มผู้ผลิตเหล็กและหุ้นกลุ่มต่อเรือจนช่วยพยุงให้ดัชนีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระดับใหม่ในช่วงก่อนปิดตลาด ในวันนี้บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนจากการที่นักลงทุนคาดว่า ดัชนีจะเคลื่อนไหวในแดนบวกบนพื้นฐานของตลาดที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้นักลงทุนบางกลุ่มเทขายทำไรหลังจากที่ตลาดปิดพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนบางกลุ่มยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนหน้าที่บริษัทเอกชนจะเริ่มรายงานตัวเลขผลประกอบการและก่อนที่สัญญาการซื้อขายแบบอ็อปชั่นจะครบกำหนดส่งมอบในวันพฤหัสบดีนี้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงก่อนปิดตลาดนักลงทุนได้ส่งแรงซื้อเข้าหนุนหุ้นกลุ่มผู้ผลิตเหล็กและกลุ่มต่อเรือจนช่วยพยุงให้ดัชนีปิดในแดนบวกได้สำเร็จ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีคอมโพสิตปิดเพิ่มขึ้น 1.31 จุด ที่ระดับ 2,014.13 จุด หลังจากเคลื่อนตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,022.87 จุด แต่ถูกแรงเทขายทำกำไรทุบลงมาแตะระดับต่ำที่ 1,995.87 จุดในการซื้อขายระหว่างวัน โดยมีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 456 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 7.3 ล้านล้านวอน ปาร์ก ซอก-ฮุน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์โซล กล่าวว่า "ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่เคลื่อนไหวร่วงลงในระหว่างวันจนกระทั่งได้รับแรงหนุนเข้ามาก่อนที่ตลาดจะปิดทำการจนส่งผลให้ตลาดปิดในแดนบวกได้สำเร็จ" ทั้งนี้ การปรับฐานลงหลังจากที่ตลาดปิดพุ่งขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ นายปาร์กกล่าวพร้อมทั้งชี้ว่า พื้นฐานของตลาดที่แข็งแกร่งประกอบกับปัจจัยหนุนในด้านบวกจะสามารถช่วยพยุงให้ตลาดปรับตัวสูงขึ้นได้ โดยในวันนี้ บริษัทแอลจี ฟิลิปส์ แอลซีดี รายงานตัวเลขผลประกอบการหลังจากที่ตลาดปิดทำการ ซึ่งนับเป็นตัวเลขผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงสุดในรอบกว่า 3 ปีที่ 6.93 แสนล้านวอน นับตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปี 2547 ที่บริษัทมีรายได้แตะระดับ 7.71 แสนล้านวอน อันเป็นผลจากราคาจอภาพที่พุ่งสูงขึ้นขณะที่ต้นทุนการผลิตปรับตัวลดลง ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอยู่เหนือระดับที่นักวิเคราะห์จากธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 5.50 แสนล้านวอน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลประกอบการของบริษัทจะสดใส แต่หุ้นแอลจี ฟิลิปส์ แอลซีดีกลับปิดลดลง 2.2% หลังจากที่หุ้นปิดพุ่งขึ้นกว่า 7% ในช่วงก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพดำดิ่งลงท่ามกลางหุ้นในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลต่อแนวโน้มตลาดซื้อขายชิป โดยหุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ปิดดิ่งลง 2.5% ซึ่งปรับตัวร่วงลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่หุ้นไฮนิกซ์ปิดลดลง 1.0% อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ หุ้นปอสโคปิดเพิ่มขึ้น 1.7% เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะปรับขึ้นราคาเหล็กภายในประเทศเพื่อใช้ในการต่อเรือประมาณ 10% ตามราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มต่อเรือที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนที่มองว่าธุรกิจต่อเรือยังมีแนวโน้มสดใส โดยหุ้นฮุนได เฮฟวี่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4% และหุ้นซัมซุง เฮฟวี่ปิดบวก 1.6%