BT ร่วง 8.76% โบรกฯคาดBV.หดเหลือ2.3บ.หลังเพิ่มทุน,ผลประกอบการ2H50ไม่ดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 15, 2007 10:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น BT ราคาร่วงลง 8.76% มาอยู่ที่ 2.50 บาท ลดลง 0.24 บาท มูลค่าซื้อขาย 8.31 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.35 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.58 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.62 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.50 บาท บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก แนะ"ขาย"หุ้น BT การเพิ่มทุนด้วยจำนวนหุ้นที่มาก คาดว่ามูลค่าทางบัญชีปี 50 จะลงมาอยู่ที่ 2.30 บาทต่อหุ้นจากประมาณการเดิมที่ 3.60 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ คาดว่าภายหลังการเพิ่มทุนครั้งที่ 2 ซึ่งจะได้เม็ดเงินราว 7.7 พันลบ. จะส่งผลดีต่อเงินกองทุนของธนาคาร(BIS) ซึ่งคาดว่า BIS Ratio จะปรับขึ้นจาก 9.17%ใน ครึ่งแรกปี 50 มาที่เกือบ 15%ภายหลังการเพิ่มทุน ซึ่งน่าจะทำให้เพียงพอต่อการตั้งสำรองหนี้สูญ การด้อยค่า และการขยายธุรกิจในอนาคตไปอีกอย่างน้อย 3 ปี ด้าน Dilution Effect หลังการ XR คาดว่าการเพิ่มทุนจะส่งผลต่อราคากระดานราว 75% และคาดจะส่งผล EPS ให้เจือจางลงราว 77%เมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นในปลายปีก่อน แต่หากผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิทั้งหมดผลของ Dilution Effect ต่อ EPS จะมีเพียง 25% ซึ่งเกิดจากหุ้นเพิ่มทุน PP ที่ให้กับ New Bridge ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารได้มีมติให้นำเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ให้พิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 4,449,800,388 หุ้น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งมีชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของธนาคาร ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2550 (XR 22 ต.ค. 50) ตามสัดส่วนจำนวนหุ้นซึ่งผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) ในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ในราคา 1.73 บาทต่อ หากมีหุ้นเหลือจากการเสนอขาย ที่ประชุมฯอนุมัติให้เสนอขายให้กับ FIDF และกลุ่ม TPG ได้ในราคาหุ้นละ 1.75 บาทต่อหุ้น นอกจากนี้ ผลประกอบการครึ่งหลังปี50 ไม่ดีนัก อาจต้องตั้งด้อยค่าเงินลงทุน CDO-Subprime มากกว่าที่คาด เนื่องจาก BT ยังมีภาระต้องตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มจากกรณี President Agri อีกราว 695 ลบ.ใน 2H50 และต้องตั้งด้อยค่าจากการลงทุนใน CDO ซึ่งเกี่ยวโยงกับตราสารหนี้ Subprime สหรัฐฯอีกราว 276 ล้านบาท ซึ่งคิดจากการด้อยค่าจากเงินลงทุนเพียง 16 ล้านเหรียญสหรัฐฯจากเงินลงทุนทั้งหมดที่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดลดลงไปราว 30% แต่จากความสูญเสียที่เกิดขึ้นในเดือนส.ค.ซึ่งเป็น 2 เดือนถัดมาจากคำชี้แจงในช่วง ครึ่งแรกปี 50 ปัญหาปะทุขึ้นมาก ดังนั้นคาดว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ BT จะต้องตั้งด้อยค่าเงินลงทุนมากกว่านั้น ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของ BT ในครึ่งหลังปี 50 จะออกมาแย่หรือขาดทุนราว 100 ลบ.เมื่อเทียบกับกำไรราว 547 ลบ.ใน1H50 และคาดกำไรสุทธิทั้งปีของ BT จะอยู่ที่ราว 400 ลบ.

แท็ก บัญชี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ