(เพิ่มเติม) ADAM ระบุคอนเสิร์ต"ดงบังชิงกิ"ดีเกินคาดทำกำไรกว่า 20 ลบ.รายได้เกินเป้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 18, 2007 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น(ADAM)เผยกระแสตอบรับคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลี"ดงบังชิงกิ"ดีเกินคาด ยอดจำหน่ายตั๋วขณะนี้ถือว่าคุ้มทุนที่ได้ลงไป 50 ล้านบาทแล้ว ทำให้รายได้จากสปอนเซอร์ที่คาดว่าจะมีมากกว่า 20 ล้านบาทถือเป็นกำไรทั้งหมด มั่นใจปีนี้รายได้รวมเกินเป้าหมายไปที่ 260 ล้านบาท และสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีกว่า 190 ล้านบาทได้ภายในปีนี้ จากที่มีส่วนล้ำมูลค่าหุ้นอยู่แล้ว 178 ล้านบาทเหลืออีกแค่ 10 กว่าล้านบาทที่จะรอจากกำไรช่วงที่เหลือของปีไม่น่าเป็นเรื่องยาก
"ดงบังชิงกิ" มีกำหนดแสดงคอนเสิร์ต"TVXQ! The 2nd Asia Tour Concert "O" in Bangkok"ในวันเสาร์ที่ 15 และวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2550 นี้
นายกิตติวัฒน์ มโนสุทธิ กรรมการผู้จัดการ ADAM คาดว่า รายได้ในปี 50 อยู่ประมาณ 260 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ 250 ล้านบาท และคาดในปีนี้จะล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 192.4 ล้านบาทได้หมด จากการนำส่วนล้ำมูลค่าหุ้นที่มีจำนวน 178 ล้านบาท และทีเหลืออีก 14 ล้านบาทจะนำจากกำไรที่คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยเฉพาะจะมีกำไรจากการจัดคอนเสิร์ต"ดงบังชิงกิ"
ทั้งนี้ คอนเสิร์ต "ดงบังชิงกิ" ได้รับการตอบรับที่ดี โดยขณะนี้เหลือตั๋วยืนไม่เกิน 1 พันใบ จากทั้ง 2 รอบ ทำให้คอนเสิร์ตดังกล่าวถึงจุดคุ้มทุนแล้วจากที่บริษัทได้ลงทุนไป 50 ล้านบาท ฉะนั้นเงินที่ได้จากสปอนเซอร์จะเป็นกำไรเข้าบริษัท ซึ่งเบื้องต้นมีกำไร 20 ล้านบาท และคาดว่าอาจจะมีสปอนเซอร์เพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าคอนเสิร์ต "ดงบังชิงกิ" มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 40%
นายกิตติวัฒน์ กล่าวว่า ADAM ในปีนี้มีผลประกอบการที่ดี จากการลงทุนใน บริษัท แอปโซลูท อิมแพค จำกัด หรือ AI ที่ได้งานบริหารมีเดียในห้างเดอะมอลล์ ขณะที่บริษัท อดามัส มีเดีย ซึ่งเป็นผู้จัดคอนเสิร์ต ทำรายได้และกำไรได้มาก ทั้งนี้ รายได้จากทั้งสองบริษัทคิดเป็น 88% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือ 12% มาจากบริษัท เอเซียบิส โซลูชั่น จำกัด และ ในบริษัท สไมล์ อินเตอร์แอค ทีฟ จำกัด ซึ่งมีรายได้เติบโตดี
ขณะเดียวกันบริษัทได้ยกเลิกธุรกิจโฆษณาซีรีย์ละครเกาหลี เพราะเจรจากับพันธมิตรไม่ลงตัว และไม่คุ้มที่จะลงทุน
นายกิตติวัฒน์ กล่าวถึงการออกวอร์แรนต์จำนวน 134 ล้านหน่วย ให้ผู้ถือหุ้นเดิมว่า บริษัทเตรียมยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ในสัปดาห์หน้า คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้ และน่าจะเข้าซื้อขายได้ในช่วงต้นปีหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ