AMATA เผยยกระดับคุมโควิดกระทบระยะสั้น จี้รัฐเร่งจัดหา-กระจายวัคซีนให้เร็ว

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 12, 2021 14:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ ประกาศยกระดับการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยมาตรการล็อคดาวน์ และเคอร์ฟิว พื้นที่รวม 10 จังหวัดรวม 14 วัน นับเป็นมาตรการที่จำเป็นภายใต้สถานการณ์ที่ไทยมียอดผู้ติดเชื้อใหม่ในอัตราสูงเฉลี่ยที่ใกล้ระดับ 10,000 คนต่อวัน และมีผู้ที่เสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดให้เร็วก่อนที่จะกระทบต่อการบริการด้านสาธารณสุขทั้งระบบจนไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวกระทบระยะสั้นเท่านั้นและในสายตานักลงทุนต่างชาติเข้าใจถึงสถานการณ์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

"ผมคิดว่าทุกส่วนยอมรับได้ถึงมาตรการที่เข้มข้นของรัฐบาลดังกล่าว โดยเฉพาะในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ เพราะแม้แต่ประเทศที่เจริญแล้ว ยังประสบปัญหาการแพร่ระบาดและต้องใช้วิธีล็อคดาวน์ด้วยเช่นกัน แต่ตรงกันข้ามหากไทยยังปล่อยให้มียอดการแพร่ระบาด และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นมากกว่า" นายวิบูลย์กล่าว

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดมากสุด คือ ต้องมีการบริหารจัดการด้านวัคซีนทั้งระบบ ทั้งในเรื่องการจัดหาวัคซีน แผนการกระจายวัคซีน ให้ถึงมือประชาชนให้ได้เร็วที่สุดเพื่อให้ครอบคลุมจำนวนประชากร 70% ของประเทศเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ควบคู่ไปด้วย ซึ่งล่าสุดทราบว่ารัฐบาลได้มีการอนุมัตินำเข้าวัคซีนมาหลากหลายยี่ห้อแล้วเช่นกัน ขณะเดียวกันภาคประชาชนเองจำเป็นต้องร่วมมือในการป้องกันดูแลตนเองไม่ให้การ์ดตกด้วยเช่นกันเพื่อให้มาตรการรัฐที่ออกมาครั้งนี้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งนี้มองว่ามาตรการยกระดับการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ การประกาศล็อคดาวน์ในพื้นที่เสี่ยงสูงสุด ถือว่าเป็นมาตรการที่รัฐต้องดำเนินการให้ประสบความสำเร็จก่อนที่จะเดินไปสู่เป้าหมายการเปิดประเทศ 120 วัน ไม่เช่นนั้นแล้ว โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จะได้รับผลกระทบเช่นกัน ดังนั้นการจะกลับมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อไปได้ ขึ้นอยู่กับการเดินทางของนักลงทุนและนักท่องเที่ยว ที่จะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เพราะ 6 เดือนที่ผ่านมา อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทย เฉลี่ยติดลบกว่า 2% ขณะที่เวียดนาม มีอัตราการเติบโตกว่า 6% หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จะส่งผลกระทบต่อเนื่องในทุกระบบ และทุกโครงสร้างทางสังคมไม่เพียงระบบเศรษฐกิจเท่านั้น

นอกจากนี้ในส่วนของ พื้นที่นิคมฯอมตะ ซิตี้ ชลบุรี ได้จัดพื้นที่ให้ เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนของระบบประกันสังคมที่ได้เริ่มดำเนินการฉีดให้พนักงานในโรงงานไปแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มโรงงาน และป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่นิคมฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ