CONSENSUS: โบรกฯต่างเชียร์ ซื้อ EASTW เล็งกำไร Q2/64 ฟื้นจากยอดขายน้ำเพิ่ม-ราคาขายขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 14, 2021 13:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ต่างเชียร์"ซื้อ"หุ้นบมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) เล็งกำไรงวดไตรมาส 2/64 จะฟื้นตัวดี โดยคาดว่าจะมีกำไรอยู่ในช่วง 328-371 ล้านบาท จากยอดขายน้ำดิบเพิ่มขึ้น และมีการปรับราคาขายขึ้นด้วย ส่งผลให้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าผลกำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่องในปีนี้ เนื่องจากการพัฒนาธุรกิจน้ำดิบ และรายได้จากน้ำเชิงอุตสาหกรรม

ปีนี้ (2564) น้ำในอ่างเก็บน้ำสำรองมีสูงกว่าปี 63 ทำให้ยอดขายน้ำดิบดีขึ้นมาก อีกทั้งยังมีการปรับราคาขายขึ้นด้วย ทำให้มาร์จิ้นของ EASTW ดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจน้ำประปาจะทรงตัว

อย่างไรก็ดี ในปี 64 ต้นทุนของ EASTW อยู่ในระดับที่ดี หลังจากที่ปี 63 เจอภัยแล้งทำให้มีต้นทุนค่าไฟจากเครื่องสูบน้ำสูง ต้นทุนในปี 63 จึงมีสูงกว่าปี 64 ทำให้มาร์จิ้นปี 64 คาดว่าจะออกมาดีกว่าปี 63

สำหรับการจ่ายเงินปันผลของ EASTW ปกติจะให้ปันผล 4-5% ต่อปี และจ่ายปีละ 2 ครั้ง ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

ราคาหุ้น EASTW ปิดเที่ยงที่ 10.20 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ดัชนี SET ลดลง 7.33 จุด

          โบรกเกอร์                    คำแนะนำ            ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ทิสโก้                          ซื้อ                     12.60
          คันทรี่ กรุ๊ป                      ซื้อ                     12.60
          ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)      ซื้อ                     12.00
          กสิกรไทย                       ซื้อ                     11.50
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)              ซ้อ                     11.00

นายสยาม ติยานนท์ นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปีนี้ (2564) น้ำในอ่างเก็บน้ำสำรองมีสูงกว่าปี 63 ทำให้ยอดขายน้ำดิบดีขึ้นมาก โดยยอดขายน้ำดิบ 6 เดือนแรกปี 64 คาดว่าจะเติบโต 19% yoy อีกทั้งยังมีการปรับราคาขายขึ้น 3% ด้วย ทำให้มาร์จิ้นของ EASTW ดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจน้ำประปาจะทรงตัว หลังปี 63 ได้หมดสัญญาไป 1 โครงการ น้ำประปาสมุยและไม่ต่อสัญญา เนื่องจากมีปัญหาแหล่งน้ำใช้ในการผลิต ทำให้ยอดขายน้ำประปา 6 เดือนปี 64 คาดว่าจะทรงตัวหรืออ่อนลงเล็กน้อยราว 0.3%

อย่างไรก็ดี ในปี 64 ต้นทุนของ EASTW อยู่ในระดับที่ดี หลังจากที่ปี 63 เจอภัยแล้งทำให้มีต้นทุนค่าไฟจากเครื่องสูบน้ำสูง ต้นทุนในปี 63 จึงมีสูงกว่าปี 64 ทำให้มาร์จิ้นปี 64 คาดว่าจะออกมาดีกว่าปี 63

ทั้งนี้ รายได้จากการขายงวดไตรมาส 2/64 คาดว่าจะมี 1.209 ล้านบาท เติบโต 21% yoy และมีกำไรสุทธิ 328 ล้านบาท เติบโต 118% จากไตรมาส 2/63 ที่มีกำไรสุทธิ 151 ล้านบาท โดยมาจากยอดขายน้ำดิบเพิ่มขึ้น และมีการปรับราคาขายขึ้นด้วย สำ

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 64 ไว้ที่ 1,074 ล้านบาท เติบโต 36% จากปี 63 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 764 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการขายปี 64 คาดว่าจะอยู่ที่ 4,844 ล้านบาท เติบโต 16% yoy สำหรับการจ่ายเงินปันผลของ EASTW ปกติจะให้ปันผล 4-5% ต่อปี และมีการให้ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

ด้านบล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯคาด EASTW จะรายงานกำไรไตรมาส 2/64 ที่ 351 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133% YoY จากยอดขายที่ดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และปริมาณน้ำที่สูง อีกทั้งมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำใหม่ โดยคาดจะฟื้นตัวต่อเนื่องในปีนี้ เนื่องจากการพัฒนาธุรกิจน้ำดิบ และรายได้จากน้ำเชิงอุตสาหกรรม พร้อมประเมินเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.22 บาท/หุ้น (จาก dividend payout ratio ที่ 50%) หรือเทียบเท่าผลตอบแทน 2.2% ในช่วงครึ่งปีแรก (H1/64)

ทั้งนี้ ประเมินรายได้อยู่ที่ 1,232 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% YoY แต่ทรงตัว QoQ จากรายได้น้ำดิบที่ 785 ล้านบาท (+34% YoY, -1% QoQ) หนุนโดยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 30% YoY (ทรงตัว QoQ) ด้านรายได้น้ำปะปาคาดจะเพิ่มขึ้น 4% สู่ 375 ล้านบาท GPM คาดอยู่ที่ 47.7% เพิ่มขึ้นจาก 36.4% ในช่วงไตรมาส 2/63 เนื่องจากต้นทุนไฟฟ้าลดลง และ ASP สูงขึ้น ส่วน SG&A คาด 6.6% YoY เนื่องจากค่าที่ปรึกษา และค่าใช้จ่ายด้านการประชุมที่ลดลง (ช่วงไตรมาส 2/63 มีการประชุมค่อนข้างมากในประเด็นการจัดการปัญหาหน้าแล้ง ทำให้ NPM อยู่ที่ 28.5% เพิ่มขึ้นมาก YoY จาก 15.1%

รายได้จากน้ำเชิงอุตสาหกรรมคาดจะเริ่มเข้ามาช่วงไตรมาส 2/64 โดยคาดจะมีสัดส่วนราว 1-8% ของรายได้รวมช่วง 2564-65 โดยคาดจะช่วยหนุน GPM และเพิ่มรายได้โดยรวมให้แก่บริษัท ขณะนี้การลงทุนโครงการใน EEC ยังคงดำเนินต่อ และจะเป็นปัจจัยการเติบโตหลัก ด้านการต่อสัญญาท่อส่งน้ำกับกรมธนารักษ์คาดจะเสร็จสินในปีนี้ก่อนสัมปทานจะสิ้นสุดลงในช่วง 2567

บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุในบทวิเคราะห์ฯคาดกำไรของ EASTW ในไตรมาส 2/64 อยู่ที่ 371 ล้านบาท(+18YoY, +134%QoQ) จะฟื้นตัวดี หนุนจากอุปสงค์การใช้น้ำของภาคอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวดี โดยเดือน เม.ย. ปริมาณขายน้ำดิบขาย อยู่ที่ 23 ล้านลูกบาศก์เมตร (-8%MoM +18%YoY) แต่ทั้งนี้คาดกำไรทรงตัว QoQ จากผลกระทบของวันหยุดยาวในช่วงสงกรานต์ ซึ่งจะถูกชดเชยจากราคาขายที่ปรับตัวเพื่มขึ้นหลังใช้วิธีการคำนวณค่าน้ำใหม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ